จับกุม 2 สามีภรรยา ร่วมกับเพื่อนตระเวนวิ่งราวทรัพย์หลายท้องที่

16 มี.ค. 2556
 
 
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 มี.ค.
พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6
พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ สายันประเสริฐ ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 
พ.ต.ท.ปกาศิต สอดจันทร์ สว.สส. และ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แถลงผลการจับกุม 

1. นายธนพล หรือตั้ม กล้าหาญ อายุ 29 ปี และ

2. น.ส.ศุภศิริ หรือพลอย คุปต์วิวัฒน์ อายุ 30 ปี สองสามีภรรยา 

ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มาหลายท้องที่ พร้อมของกลาง

- รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีเขียว ทะเบียน มวต 799 กรุงเทพมหานคร 
- หมวกนิรภัยแบบเต็มใบ 2 ใบ 
- เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ 1 ชุด 
- กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง 1 ใบ 
- กระเป๋าสตางค์แบบผู้หญิง 1 ใบ 
- นาฬิกาข้อมือ 1 เรือน และ
- บัตรประชาชนผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิง 
- บัตรอิเล็กทรอนิกส์ อีกกว่า 20 ใบ 

โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องพักกลางซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงและเขตบางพลัด กทม.

พล.ต.ต.วัลลภ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พลับพลาไชย 2 ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ โดยผู้เสียหายเป็นสตรีในท้องที่รับผิดชอบมาแล้วหลายราย จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่ามีคนร้าย ใช้รถ จยย.เป็นยานพาหนะ 

แบ่งหน้าที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาตระเวนก่อเหตุ จำนวนทั้งสิ้น 3 คน มีนายธนพล เป็นผู้ขับขี่รถ จยย.พา น.ส.ศุภศิริ ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือน มาเป็นผู้กระชากกระเป๋า 

ในบางครั้งนายธนพลจะสลับพาเพื่อนที่ยังหลบหนีอีก 1 คน ชื่อ 

นายแบงค์ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 40 ปี 

ซ้อนท้ายมาร่วมก่อเหตุด้วย จากการตรวจสอบพฤติกรรมและรูปพรรณต่างๆ ยังทราบอีกว่า คนร้ายทั้ง 3 คน ร่วมกันก่อเหตุลักษณะนี้อีกหลายท้องที่ทั้ง สน.จักรวรรดิ สน.พญาไท สน.มักกะสัน และสน.ชนะสงคราม จึงเร่งแจกจ่ายรูปพรรณของคนร้ายและยานพาหนะที่ใช้ไปตามโรงพักต่างๆ เพื่อหาเบาะแส

กระทั่งได้รับการติดต่อจากฝ่ายสืบสวนสน.บางยี่เรือ ว่าพบสามีและภรรยาผู้ต้องสงสัยไปปรากฏตัวที่ปากซอยหิรัญรูจี แขวงและเขตธนบุรี จึงติดตามไปสังเกตการณ์และสะกดรอยตามไปถึงห้องพักก่อนรวบตัวและยึดของกลางทั้งหมดเอาไว้ได้ภายในห้องดังกล่าว

จากการสอบสวน นายธนพลให้การว่า ตนรู้จักกับนายแบงค์ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมานานนับ 10 ปี และชักชวนกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เหยื่อเฉพาะที่เป็นสตรีมานับครั้งไม่ถ้วน จนระยะหลังทะเลาะกันเลยต้องชักชวน น.ส.ศุภศิริภรรยามาร่วมก่อเหตุแทน โดยก่อนหน้านี้ตนคบหาน.ส.ศุภศิริมาได้ 1 ปี จึงตัดสินใจมีลูกด้วยกันกำลังตั้งครรภ์อยู่ในท้อง 7 เดือน 

นอกจากนี้ น.ส.ศุภศิริ มีลูกชายวัยกว่า 2 ขวบ ซึ่งเกิดจากสามีเก่า ทำให้รายได้ไม่พอใช้จ่าย ต้องหาค่าเช่าห้องให้ได้เดือนละ 2,700 บาท ประกอบกับตนต้องเสพยาบ้าทุกวัน วันละ 1 เม็ด 

ส่วน น.ส.ศุภศิริก็ติดยาไอซ์งอมแงม แม้กำลังตั้งท้องก็ยังไม่เลิกเสพ ทั้งนี้เมื่อตนขับรถ จยย.ไปจอดใกล้ๆเหยื่อ แล้วให้ภรรยาเป็นผู้วิ่งราวทรัพย์มาได้แล้วก็จะนำเงินสดไปใช้ ส่วนทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ จะนำไปขายให้พ่อค้าย่านคลองหลอด สำหรับบัตรต่างๆ ของผู้เสียหายส่วนหนึ่งจะนำไปทิ้งในถังขยะหน้าห้องพักซึ่งตรงกับหลังบ้านนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี

ทางด้าน น.ส.กุลวนีย์ อินทร์แก้ว อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้เสียหายซึ่งเป็นญาติกับพล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รอง ผบช.สตส. เดินทางมาดูของกลางด้วย พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนไปนั่งกินผัดไทกับเพื่อนที่แยกราชเทวี ท้องที่ สน.พญาไท โดยนำกระเป๋าสะพายภายในบรรจุเงินสด 3,000 บาท มีเอกสารสำคัญ และกุญแจห้องพักวางเอาไว้บนตัก 

ทันใดนั้นมีคนร้ายขี่รถจยย.มาจอดด้านหลัง ก่อนที่ผู้ต้องหาผู้หญิงจะลงจากรถมากระชากกระเป๋าวิ่งขึ้นซ้อนท้ายรถ ก่อนหลบหนีไป อย่างไรก็ตามตนขออโหสิกรรมให้ทุกอย่างเพราะเห็นแก่เด็กในท้อง อย่างไรก็ตามหากพ้นโทษออกมาแล้วอย่าไปทำอย่างนี้กับใครอีกก็พอ
Read more ...

จับกุม แก๊ง 7 ปีศาจ ร่วมกันปล้นทรัพย์นิสิตจุฬาฯ

13 มี.ค. 2556
 
 
 
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ ( 13 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย
พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รองผบช.น.
พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6
พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รองผบก.น.6
พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รองผกก.สส.สน.ปทุมวัน
พ.ต.ท.สัญชัย มาตรคำจันทร์ สว.สส.สน.ปทุมวัน และ
ร.ต.อ.เพิ่มวุฒิ ประทุมราช สว.สส.สน.ยานนาวา


ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว

1. นายปฏิพล หรือตี๋ ผดุงกิจโกศล และ

2. นายนัฐพงษ์ หรือต๊ะ นุชัยภูมิ


ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุปล้นทรัพย์นิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมของกลาง

- รถจยย.ฮอนด้า เวฟ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน รถจยย.ยามาฮ่า มีโอ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน และ
- รถจยย.ฮอนด้า เวฟ 110 สีแดงขาว หมายเลขทะเบียน องป 350 กรุงเทพมหานคร และ
- อุปกรณ์ที่ใช้ในการงัดแงะอีกหลายรายการ


โดยจับกุมตัวทั้งสองคนได้

ที่ซอยเจริญกรุง 107 แขวงบางโคล่ เขตบางคอมแหลม

โดยมี

รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ ผอ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นายกุลชาติ อุทัยวิชากุล อายุ 21 ปี นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และ
นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ


มาร่วมแถลงข่าวและชี้ตัวผู้ต้องหาด้วย

พล.ต.ต.วัลลภ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 4 มี.ค. ได้เกิดเหตุคนร้ายปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายนิสิตของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่างโหดเหี้ยม จนมีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของสถาบันเพื่อเตือนให้นิสิตอื่นๆ และประชาชนระมัดระวังตัว

ซึ่งหลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนบก.น.6 ได้ร่วมกันสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายและประชาสัมพันธ์หมายเลขทะเบียนรถจยย.ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุผ่านทางระบบไลน์ ไปยังพื้นที่บก.น.1-9 เพื่อให้ช่วยแจ้งเบาะแสหากพบรถจยย.คันดังกล่าว

กระทั่งฝ่ายสืบสวนสน.วัดพระยาไกร ได้ร่วมกันจับกุมตัว

นายปฏิพล

นายนัฐพงษ์

นายมีน (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี และ

นายปาย (นามสมมุติ)อายุ 17 ปี


ซึ่งทั้งหมดขี่ รถจยย.อยู่ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร ด้วยท่าทางพิรุธ เมื่อเรียกตรวจค้นและตรวจสอบทะเบียน รถจยย.พบว่าเป็นรถที่ลักมาจากพื้นที่ จ.นนทบุรี และสน.ยานนาวา จึงนำตัวนายมีน และนายปาย ส่งดำเนินคดีที่ สภ.นนทบุรี และนำตัวนายปฏิพลและนายนัฐพงษ์ ส่งดำเนินคดีที่ สน.ยานนาวา

พล.ต.ต.วัลลภ กล่าวอีกว่า ฝ่ายสืบสวนสน.ยานนาวาได้สอบสวนผู้ต้องหาและขยายผลจนทราบว่าได้ร่วมกับพวกอีกประมาณ 6-7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์และ ลัก รถจยย.ในพื้นที่ต่างๆมาแล้วไม่ต่ำกว่า 60 ครั้ง ตั้งแต่เดือนธ.ค. 2555 -มี.ค. 2556

โดยเฉพาะพื้นที่สน.ยานนาวา ทำมาแล้วประมาณ 50 ครั้ง

ฝ่ายสืบสวนจึงประสานผู้เสียหายที่ถูกลักรถจยย. มาชี้ตัว นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังรับสารภาพว่าได้ร่วมกับนายมีนก่อเหตุปล้นทรัพย์นิสิตจุฬาฯ ตามที่เป็นข่าวด้วย ฝ่ายสืบสวนสน.ยานนาวา จึงประสานไปที่ สน.ปทุมวัน เพื่อขยายผลต่อ

ซึ่งนิสิตจุฬาก็ได้ชี้ตัวยืนยันแล้วว่าผู้ต้องหาเป็นคนที่ก่อเหตุจริง เนื่องจากจำหน้าได้ ส่วน

รถจยย.ฮอนด้า เวฟ ทะเบียน งรก 41 นครราชสีมา

ที่ใช้ก่อเหตุปล้นนิสิตจุฬา เป็นรถที่ลักมาเช่นกัน และได้นำไปขายแล้ว เพราะสื่อนำเสนอข่าวทำให้ผู้ต้องหากลัวว่าจะถูกจับกุม

ทั้งนี้คดีดังกล่าวถือว่าเป็นความใส่ใจของตำรวจ เพราะหากไม่จับกุมในคดีลัก รถจยย.พร้อมทั้งตรวจสอบอย่างละเอียด ก็อาจจะไม่สามารถขยายผลไปถึงคดีอื่นๆได้ โดยเฉพาะคดีปล้นทรัพย์นิสิตจุฬาฯ ส่วนคดีลัก รถจยย.ในพื้นที่สน.วัดพระยาไกร ทางฝ่ายสืบสวนสน.วัดพระยาไกร อยู่ระหว่างการสืบสวนจับกุมตัวผู้ต้องหาเพิ่มเติมต่อไป

ด้านพ.ต.ท.พนม กล่าวว่า แก๊งของผู้ต้องหามีสมาชิกหลักๆ 7 คน ใช้ชื่อแก๊งว่า

“แก๊ง 7 ปีศาจ” มีพฤติกรรมโหดเหี้ยม ชิงทรัพย์และทำร้ายเหยื่อ โดยเฉพาะผู้ชาย เนื่องจากนายปฏิพลมีภรรยาที่กำลังตั้งท้อง 6 เดือน จึงไม่เลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิง

ทรัพย์สินที่ได้มาก็จะไปขายย่านคลองหลอด นำเงินไปแบ่งกันเที่ยวเตร่

โดยนายนัฐพงษ์ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ที่ร้านอาหารในโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่เงินไม่พอใช้

ส่วนนายปฏิพลอ้างว่าเตรียมเงินไว้ซื้อนมให้ลูกกิน

นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังสารภาพด้วยว่าร่วมกันสมาชิกในแก๊งก่อเหตุปล้นทรัพย์ในพื้นที่สน.ปทุมวัน ทั้งหมด 6 คดี เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา

ปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส

กับนายปฏิพลและนายนัฐพงษ์ สำหรับนายมีน ได้ให้ฝ่ายสืบสวนประสานไปยังสภ.เมืองนนทบุรี อายัดตัวในข้อหาเดียวกันแล้ว และได้ออกหมายจับสมาชิกในแก๊งที่ร่วมกันก่อเหตุในพื้นที่ปทุมวันอีก 2 ราย

ทั้งนี้จากแนวทางการสืบสวนพบว่าน่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่า 7 ราย โดยแยกกันทำในพื้นที่ต่างๆ ทุกครั้งที่ก่อเหตุไม่ได้ไปด้วยกันทั้งหมด ต่างกรรมต่างวาระกัน

ซึ่งฝ่ายสืบสวนจะเร่งติดตามจับกุมตัวให้ได้ทั้งหมดโดยเร็ว หากผู้เสียหายรายใดพบว่าเคยถูกผู้ต้องหากลุ่มนี้ก่อเหตุ ให้มาชี้ตัวเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา

ขณะที่นายกุลชาติ นิสิตจุฬาฯ เหยื่อที่ถูกก่อเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ยืนรอรถเมล์เพื่อกลับบ้าน ระหว่างนั้นได้ถือโทรศัพท์มือถืออยู่ด้วย หลังจากที่เหลือตนยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์เพียงคนเดียว กลุ่มผู้ต้องหา 3 คน ได้ขี่รถจยย.ย้อนศรมาจอดที่หน้าตน และบอกว่า “ เอามือถือมา ” ตนจึงรีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง ทำให้คนร้ายทั้ง 3 คน วิ่งเข้ามาล๊อกคอ และรุมทำร้ายร่างกายจนลงไปนอนกองกับพื้น ใช้เวลาประมาณ 2 นาที

ตนพยายามตะโกนเรียกรปภ.และคนอื่นๆให้ช่วยเหลือแล้ว แต่คงไม่มีใครได้ยิน ก่อนที่ทั้งหมดจะหลบหนีไป กระทั่งมีอาจารย์จากคณะศิลปกรรมผ่านมาเห็นและพาไปส่งที่รพ.จุฬา อย่างไรก็ตามตนอยากฝากไปถึงนิสิตจุฬาฯทุกคน รวมถึงประชาชน ให้ระมัดระวัง อย่านำทรัพย์สินขึ้นมาถือขณะที่ยืนอยู่คนเดียว และ

อยากฝากถึงกทม.ให้ช่วยเอาป้ายโฆษณา บริเวณป้ายรถเมล์ออก เนื่องจากบดบังแสงสว่างที่จะส่องมาถึง และบังจุดที่รปภ.รวมถึงนิสิตที่อยู่คณะนิเทศศาสตร์ จะเห็นเหตุการณ์ได้ หากไม่มีป้ายดังกล่าวบังอยู่ วันนั้นอาจจะมีคนมาช่วยทันก็ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รศ.ดร.บัญชา ผอ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายกุลชาติ อุทัยวิชากุล อายุ 21 ปี นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้มอบกระเช้าดอกไม้ให้กับพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ผบช.น. เพื่อเป็นการขอบคุณที่เร่งรัดคดี และช่วยกันสืบสวน จนติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้

ที่มา นสพ.เดลินิวส์ออนไลน์
Read more ...