พิธีตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ ประจำ บก.น.6

21 ก.ค. 2558

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 58 เวลา 09.29 น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. , พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พร้อมผู้บังคับบัญชา และอดีตผู้บังคับบัญชาตำรวจ บก.น.6 และข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.น.6 ร่วมพิธีตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ ประจำ บก.น.6
Read more ...

สน.สำราญราษฎร์ จับกุมผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น

15 ก.ค. 2558
ตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ให้ทุกพื้นที่เร่งรัดสืบสวนปราบปราม และจับกุมผู้กระทำความผิดในคดีอาญาทุกประเภท ตลอดจนคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และคดียาเสพติดอย่างต่อเนื่องตลอดมา

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2558 เวลาประมาณ 11.00 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศรีวราห์รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พล.ต.ต.ชาญเทพเสสะเวช, พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ, พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต, พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง, พล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข, พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล, พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ รอง ผบช.น.ได้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้าย ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา

กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6, พ.ต.อ. บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รอง ผบก.น.6, พ.ต.อ.พิพัฒน์ บุญเพ็ชร์ รักษาการแทน ผกก.สน.สำราญราษฎร์, พ.ต.ท.วุฒิชัย สุคนธวิท รอง ผกก.สส.สน.สำราญราษฎร์, พ.ต.ท.นพรุจ จิตมั่น สว.สส.สน.สำราญราษฎร พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สำราญราษฎร์และฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.6

ได้ร่วมกันทำการจับกุม

1. นายสุรทิน สังขพันธ์ หรือ เทิง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ตรอกศิริอำมาตย์ แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 
ตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1594/2558 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2558

2. นายทศพร ประภาวิชา หรือ ลาย อายุ19 ปี ที่อยู่ 18/1 ม.10 ต.ถาวรวัฒนา อ.ทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร 
ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1593/2588 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2558

3. นายสุวิทย์ รักธรรม หรือดริ้ง อายุ 30ปี ที่อยู่ 8/2 ม.5ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1592/2588ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2558

4. นายสมศักดิ์ ศรีนา หรือมะเด่น อายุ 31 ปี ที่อยู่ 37 ม.4 ต.นาป่าแซง อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ 

ผู้ร่วมกระทำความผิดและเป็นผู้ที่ถูกออกหมายจับตามหมายจับ ศาล อาญาที่ 1572/2558 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2558 (ถูกอายัดตัวที่ สน.บุปผาราม) ถูกจับในคดียาเสพติด คดีอาญาที่ 361/2558 ปจว.ข้อ 2 เมื่อวันที่ 13 ก.ค.58 เวลา 16.20 น.

สถานที่จับกุม สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 เวลาประมาณ 16.45 น.

สถานที่เกิดเหตุ บริเวณปากซอยแพร่งสรรพศาสตร์ ถนนอัษฎางค์ แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2558 เวลาประมาณ 00.45 น.

ของกลาง

1. เสื้อยืดคอกลม สีม่วง จำนวน 1 ตัว ของผู้ถูกจับลำดับที่ 1
2. กางเกงขาสามส่วน สีดำ จำนวน 1 ตัว ของผู้ถูกจับลำดับที่ 1
3. หมวกแก็ป สีดำ จำนวน 1 ใบ ของผู้ถูกจับลำดับที่ 1
4. เสื้อโปโล สีเทา คอปกสีดำ จำนวน 1ตัว ของผู้ถูกจับลำดับที่ 2
5. กางเกงขาสามส่วน สีกรมท่า จำนวน 1ตัว ของผู้ถูกจับลำดับที่ 2
6. เสื้อยืดคอกลมสีเหลือง จำนวน 1ตัว ของผู้ถูกจับลำดับที่ 3
7. กางเกงยีนส์ ขายาว จำนวน 1ตัว ของผู้ถูกจับลำดับที่ 3
8. กระเป๋าสะพายหนังสีน้ำตาล จำนวน 1ใบ ของผู้ถูกจับลำดับที่ 3
9. เข็มขัดหนัง จำนวน 1 เส้น ของผู้ถูกจับลำดับที่ 3

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธ (มีด) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร”

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2558 เวลาประมาณ 00.45 น. ได้รับแจ้งเหตุนาย ประชารักษ์ บุญรับ หรือแน็ค ถูกแทงจนถึงแก่ความตายที่บริเวณ ข้างตู้โทรศัพท์สาธารณะ ปากซอยแพร่งสรรพศาสตร์ ถนนอัษฎางค์ แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ คนร้ายได้หลบหนีไป จากสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทราบว่ามีผู้ก่อเหตุจำนวน 4 คน คือ 1.นายสมศักดิ์ ศรีนา หรือ มะเด่น อายุ 31 ปี 2.นายสุรทิน สังขพันธ์ หรือ เทิง อายุ 19 ปี 3.นายทศพร ประภาวิชา หรือ ลาย อายุ19 ปี 4.นายสุวิทย์ รักธรรม หรือดริ้ง อายุ 30ปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้อหาที่ก่อเหตุ

ต่อมาได้มีการจับกุมตัว ผู้ต้องหาที่ 1 – 3 ได้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 4 อายัดตัวไว้ที่ สน.บุปผาราม

ผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

นอกจากนี้ผู้ถูกจับยังเคยมีประวัติการกระทำความผิด ดังนี้

1.นายสุรทินสังขพันธ์ หรือ เทิงเคยต้องคดีอาญาในข้อหาพยามฆ่า เมื่อปี พ.ศ.2555 ในเขตท้องที่ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามและเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัวกลางที่ จ.154/2558 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2555 ในข้อหา พยายามชิงทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธฯของสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง

2.นายทศพร ประภาวิชา หรือ ลายเคยต้องคดีอาญาในข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ เมื่อปี พ.ศ.2557ในเขตท้องที่ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม

3.นายสุวิทย์ รักธรรม หรือดริ้งเคยต้องคดีอาญาในข้อหา ลักทรัพย์(จักรยานยนต์) เมื่อปี พ.ศ.2552ในเขตท้องที่ สถานีตำรวจภูธรลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี

4.นายสมศักดิ์ ศรีนา หรือ มะเด่น เคยต้องคดี ข้อหา ดังนี้

- เสพยาเสพติดให้โทษ เมื่อปี พ.ศ.2551ในเขตท้องที่ สถานีตำรวจนครบาลบางกอกน้อย
- เสพยาเสพติดให้โทษ เมื่อปี พ.ศ.2552ในเขตท้องที่ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม
- เสพยาเสพติดให้โทษ เมื่อปี พ.ศ.2554ในเขตท้องที่ สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์
- ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้เกิดอันตราย เมื่อปี พ.ศ.2557ในเขตท้องที่ สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง
- เสพยาเสพติดให้โทษ เมื่อปี พ.ศ.2557ในเขตท้องที่ สถานีตำรวจนครบาลบางกอกน้อย

ที่มา FB กองบัญชาการตำรวจนครบาล https://goo.gl/G6KD6F
Read more ...

สน.พระราชวัง ชนะเลิศการประกวดการฝึก ของ บช.น. ประจำปี 2558

14 ก.ค. 2558
1436869709633
1436869708316  1436869710899 1436869727269 1436869730076 1436869758016 1436869759537 1436869778367
S__13279401 S__13279402 S__13279398 
2894432885740
1436869718282 1436869736617
เมื่อวันที่ 14 ก.ค.2558  ข้าราชการตำรวจ สน.พระราชวัง ตัวแทน บก.น.6 ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดการฝึกของก­องบัญชาการตำรวจนครบาล ในกลุ่มที่ 1(ระดับ สน.) ประจำปี 2558 และได้เป็นตัวแทนของ บช.น.ไปประกวดการฝึกในระดับ ตร.  

สร้างความภูมิใจและเป็นที่น่าชื่นชมแก่ผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกท่านที่มุ่งมั่น ทุ่มเทแรงกาย แรงใจในการฝึกซ้อมและทำการแข่งขันจนประสบผลสำเร็จ 


Read more ...

สืบสวน สน.บางรัก จับกุมผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ก่อเหตุโชกโชน

11 ก.ค. 2558
ตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ให้ทุกพื้นที่เร่งรัดสืบสวนปราบปราม และจับกุมผู้กระทำความผิดในคดีอาญาทุกประเภท ตลอดจนคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และคดียาเสพติดอย่างต่อเนื่องตลอดมา

วันที่ 11 กรกฎาคม 2558 เวลา 09.00 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร.(ปป 2), พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช, พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ, พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต, พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง, พล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข, พล.ต.ตนิพนธ์ เจริญผล, พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ รอง ผบช.น. ได้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา

กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ภายใต้การอำนวยการโดย พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6, พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รอง ผบก.น.6, พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางรัก, พ.ต.ท.จิรกฤต จารุนภัทร์ รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ท.วิทวัส บูรณะ สว.สส.ฯ, พ.ต.ต.สาธิต สอนชา สว.สส.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ได้ร่วมกันทำการจับกุม

นายสหรัฐ หรือบิ๊ก ทองอุดม อายุ 18 ปีบ้านเลขที่ 47 ถนนวุฒากาศ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม.

ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ. 628/2558 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2558 ของ สน.พระราชวัง

พร้อมด้วยของกลาง

- รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ-น้ำตาล(ทอง) ล้อแม็กสีดำ หมายเลขทะเบียน 2กณ 3537 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน
- เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว จำนวน 1 ตัว
- กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว
- รองเท้าแตะ จำนวน 1 คู่

วันเวลา/สถานที่จับกุม หน้าบ้านเลขที่ 318/14 หมู่ที่ 11 ต.มะขามล้ม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เมื่อ วันที่ 10 กรกฎาคม 2558 เวลาประมาณ 14.00 น.

วันเวลา/ที่เกิดเหตุ บริเวณแยกอุณากรรณ ถ.เจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. เมื่อ 11 มีนาคม 2558 เวลาประมาณ 08.40 น.

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิดฯ”
(ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ. 628/2558 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2558 ของ สน.พระราชวัง)

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.58 เวลาประมาณ 08.45 น. ได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ที่บริเวณปากคลองตลาด ซี่งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สน.พระราชวัง ได้ทรัพย์สินสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองหนัก จำนวน 1 บาท จำนวน 1 องค์ ราคาประมาณ 40,000 บาทไป และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระราชวัง ได้สืบสวนจนทราบตัวคนร้ายและศาลได้อนุมัติหมายจับคนร้ายไว้แล้ว

ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 08.46 น. ได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ-น้ำตาล (ทอง) ล้อแม็กสีดำ ทะเบียน ฬอป 739 กรุงเทพมหานคร (ทะเบียนปลอม) ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น ที่บริเวณหน้าโรงแรมมาร์ ถนนสุรวงศ์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ ก่อนหลบหนีไป ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.บางรัก

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรักจึงได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้าย จนทราบว่าคนร้ายดังกล่าว คือ

นายศราวุธ หรือ เบล ปานทอง (เป็นผู้ขับขี่) และ 

นายสหรัฐ หรือ บิ๊ก ทองอุดม (เป็นคนซ้อนท้ายและกระชากสร้อยคอทองคำ)

โดยคนร้ายทั้งสองเป็นสมาชิกของ “แก๊งพลอยแก้ว” ที่ยังไม่ถูกจับกุมตัว และเป็นกลุ่มคนร้ายเดียวกันกับที่ก่อเหตุในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สน.พระราชวัง ซึ่งได้ถูกออกหมายจับไว้แล้วข้างต้น จึงได้ประสานขอข้อมูลจาก สน.ใกล้เคียงจนพบว่าคนร้ายดังกล่าว ยังได้ตระเวนก่อเหตุอีกจำนวนหลายครั้ง ในเขตพื้นที่ บก.น.6 ดังนี้

1.วันที่ 25 เม.ย.58 เวลาประมาณ 09.00 น. ก่อเหตุ ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ (พื้นที่ สน.ปทุมวัน)

2.วันที่ 6 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 08.30 น. ก่อเหตุ ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ (พื้นที่ สน.ปทุมวัน)

3.วันที่ 20 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 08.46 น. ก่อเหตุ ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ (พื้นที่ สน.บางรัก)

4.วันที่ 20 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 09.00 น. ก่อเหตุ ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ (พื้นที่ สน.ปทุมวัน)

5.วันที่ 28 มิ.ย.58 เวลาประมาณ 15.10 น. ก่อเหตุ ร่วมกันพยายามวิ่งราวทรัพย์ (พื้นที่ สน.ยานนาวา)

6.วันที่ 4 ก.ค.58 เวลาประมาณ 15.36 น. ก่อเหตุ ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ (พื้นที่ สน.ปทุมวัน)

นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่า นายสหรัฐ หรือ บิ๊ก ทองอุดม เป็นผู้ต้องหาซึ่งถูกออกหมายจับในคดีของ สน.ต่างๆ ดังนี้

1.หมายจับศาลอาญาที่ จ.628/2558 และ 633/2558 ลงวันที่ 27 มี.ค.58 ข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ” (ของ สน.พระราชวัง)

2.หมายจับศาลอาญาที่ จ.599/2558 และ 640/2558 ลงวันที่ 26 มี.ค.58 ข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ” (ของ สน.สำราญราษฎร์)

3.หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.219/2558 และ 225/2558 ลงวันที่ 30 มี.ค.58 ข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ” (ของ สน.วัดพระยาไกร)

4.หมายจับศาลอาญากรุงเทพธนบุรี ที่ จ.239/2558 ลงวันที่ 2 เม.ย.58 ข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ ยานพาหนะฯ” (ของ สน.บุคคโล)

5.หมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ที่ จ.69/2558 ลงวันที่ 22 เม.ย.58 ข้อหา “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ” (ของ สน.บางยี่เรือ)

รวม จำนวนทั้งสิ้น 8 หมาย

จากการสืบสวนทราบว่า นายสหรัฐ หรือ บิ๊ก ทองอุดม ผู้ต้องหาตามหมายจับข้างต้น ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 318/14 หมู่ที่ 11 ต.มะขาม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี จึงได้วางแผนสืบสวนติดตามจับกุมตัว จนกระทั่งสามารถจับกุม นายสหรัฐ หรือ บิ๊ก ได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 318/14 ฯ ดังกล่าวข้างต้น

จากการสอบสวนขยายผล ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิดและหลบหนีในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ มาตั้งแต่ พ.ศ.2556 ต่อเนื่องมาจนกระทั่งถูกจับกุม ไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง

หากผู้เสียหายท่านใดที่ประสบเหตุถูกวิ่งราวทรัพย์ในลักษณะดังกล่าว สามารถติดต่อขอดูตัวผู้ต้องหาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับรายละเอียดพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่ สน.พระราชวัง และ สน.บางรัก และจะได้ประสาน สน.ต่างๆ ให้ติดตามผู้เสียหายที่ได้ร้องทุกข์ไว้มาชี้ยืนยันตัวผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ที่มา FB บช.น. https://www.facebook.com/thaimetropolice/posts/1781221582104967
Read more ...

จับกุมผู้ต้องหาปล้นทรัพย์ ธ.กสิกรไทย โลตัส พระราม 1 กว่า 13 ล้านบาท

7 ก.ค. 2558
ตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ให้ทุกพื้นที่เร่งรัดสืบสวนปราบปราม และจับกุมผู้กระทำความผิดในคดีอาญาทุกประเภท ตลอดจนคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และคดียาเสพติดอย่างต่อเนื่องตลอดมา

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2558 เวลา 11.30 น.
ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., 
พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก., 
พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น., 
พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น., 
พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น., 
พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น., 
พล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ รอง ผบช.น., 
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น., 
พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. , 
พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ รอง ผบช.น. ได้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา

พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6, 
พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น.  
พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป., 
พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 ป, 
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.6, 
บก.สส.บช.น., และ บก.ป. 

ได้ร่วมกันทำการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามจับกุมคนร้าย พร้อมทรัพย์สินที่สูญหายไปตลอดมา

ได้ร่วมกันทำการจับกุม

1.นายทวีวงศ์ หรือ ตูน หอมเนียม อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/71 ถ.สวรรคโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.456/2558 ลงวันที่ 6 ก.ค.2558 (คนซ้อนท้าย + ยิง)

2.นายมารุต หรือ เบส แก่นคำหล่อ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/36 ถ.สวรรคโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.458/2558 ลงวันที่ 6 ก.ค.2558 (ขับรถรับ – ส่งคนร้าย)

3.นางสาวอารยา หรือ กระแต ผลารักษ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 279/53 ถ.นครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.457/2558 ลงวันที่ 6 ก.ค.2558 (ชี้เป้า)

ผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่

นายศาตรา หรือ ตั้ม สุขสม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 ม.1 ต.หนองโอ่ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.455/2558 ลงวันที่ 6 ก.ค.2558 (หลบหนี) (ผู้ขับขี่ จยย.)

วันเวลา สถานที่เกิดเหตุ วันที่ 19 มิถุนายน 2558 เวลา17.09 น. ภายในบริเวณห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขา ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

วันเวลา สถานที่จับกุม วันที่ 6 กรกฎาคม 2558 เวลาประมาณ 23.45 น. ที่ บก.สส.บช.น.

พร้อมของกลาง

- อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยี่ห้อ สมิทแอนด์เวสสัน สีดำ จำนวน 1 กระบอก
- อาวุธปืนขนาด .38 ยี่ห้อ ทอร์รัส สีเงิน จำนวน 1 กระบอก

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืนยิง และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมฯ”

พฤติการณ์คือ ด้วยเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2558 เวลา 17.09 น. เกิดเหตุคนร้ายสองคนใช้รถจักรยานยนต์ เป็นยานพาหนะบุกปล้นถุงเงินสดจากพนักงานควบคุมรถขนเงิน หมายเลข 134 ของบริษัท โพรเกรส กันภัย จำกัด ที่ภายในบริเวณห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขา ถนนพระราม 1 ได้เงินสดเป็นเงินสกุลไทย และเงินสกุลต่างประเทศ รวมกันเป็นเงินจำนวน 13,165,387.29 บาท 

โดยพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้มีพฤติการณ์กระทำความผิดในลักษณะที่อุกอาจ และเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ

จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน, กองปราบ, บก.สส.บช.น., บก.น.6, สน.ปทุมวัน กองบัญชาการตำรวจนครบาลกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และ สน.ปทุมวัน โดยได้วิเคราะห์ข้อมูลแผนประทุษกรรมของ

กลุ่มคนร้ายในครั้งนี้จนกระทั่งสามารถสืบสวนทราบชื่อของกลุ่มคนร้าย และมีพยานหลักฐานเพียงพอที่เชื่อได้ว่ากลุ่มของคนร้ายได้ร่วมกันกระทำความผิดจริง จนกระทั่งศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้พิจารณาออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด แล้วติดตามจับกุมผู้ต้องได้ 3 คน จากการสอบถามนายทวีวงศ์ หรือตูน ผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่าได้คิดวางแผนก่อเหตุปล้นถุงเงิน ร่วมกับนายศาตรา หรือ ตั้ม มาเป็นระยะเวลา 1 ปี และได้สามารถลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ได้เพราะสบโอกาส โดยในวันที่ก่อเหตุ นายทวีวงศ์ ได้ให้นายมารุต หรือเบส เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อไปพบกับนายศาตรา หรือ ตั้ม ที่บริเวณศาลาซึ่งตั้งอยู่ระหว่างอาคารทิปโก้ และแยกระนอง 1 ถ.เลียบทางรถไฟ 

จากนั้นได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เพื่อเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ โดยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮา รุ่นมีโอ เอ็มเอ็กซ์ 125 สีขาวน้ำเงิน โดยมี นายศาตรา หรือ ตั้ม เป็นผู้ขับขี่ และนายทวีวงศ์ หรือ ตูน เป็นผู้นั่งซ้อนท้าย เมื่อเดินทางไปถึงห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาถนนพระราม 1 ในครั้งแรกไม่พบรถตู้ขนเงินเป้าหมาย จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปโดยมี น.ส.อารยา หรือ กระแต ซึ่งเป็นภรรยาของนายทวีวงศ์ หรือ ตูน ได้ร่วมกระทำความผิดในครั้งนี้ด้วยโดยเป็นผู้ที่ชี้เป้าในวันเกิดเหตุให้กลุ่มคนร้าย จากนั้นได้วนเข้ามาในลานจอดรถ ชั้น 2 เป็นครั้งที่สอง โดยในครั้งนี้พบรถตู้ขนเงินเป้าหมายจอดอยู่ จึงได้ไปจอดรถรอที่บริเวณทางเข้า-ออกห้าง ชั้นที่ 2 ต่อมาได้พบพนักงานของรถขนเงินถือถุงเงินเดินมาที่บริเวณด้านท้ายของรถตู้ จึงได้ลงมือก่อเหตุ และหลบหนีไปพร้อมกับถุงเงินโดยได้นัดหมายกับนายมารุต หรือเบส ให้มารอรับที่บริเวณศาลาข้างอาคารทิปโก้และ แยกระนอง 1 ถ.เลียบทางรถไฟ 

จากนั้นได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย และแยกกับนายศาสตรา หรือ ตั้ม โดยให้ไปนัดเจอกันอีกครั้งที่บริเวณริมกำแพง ใกล้ต้นโพธิ์ ชุมชนป้ายเจ็ด ถ.สวรรคโลก แขวงสวนจิตรลาด เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งมอบถุงเงินให้กับนายศาสตรา หรือ ตั้ม และต่อมาในภายหลังได้มีการแบ่งเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดให้แก่คนร้ายที่ร่วมลงมือก่อเหตุ นอกจากนนี้จากการสืบสวนยังพบว่ามี น.ส.อารยา หรือ กระแต ซึ่งเป็นภรรยาของนายทวีวงศ์ หรือตูน ได้ร่วมกระทำความผิดในครั้งนี้ด้วยโดยเป็นผู้ที่ชี้เป้าในวันเกิดเหตุโดยกลุ่มคนร้ายได้มีการแบ่งทรัพย์สินกันและนำไปใช้ซื้อทรัพย์สินต่างๆ เช่น บ้าน นาฬิกาโรเล็กซ์ สร้อยคอทองคำ พระเครื่อง ฯลฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสามารถตรวจยึดอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยี่ห้อ สมิทแอนด์เวสสัน สีดำ จำนวน 1 กระบอก และ อาวุธปืนขนาด .38 ยี่ห้อ ทอร์รัส สีเงิน จำนวน 1 กระบอก ซึ่งนายทวีวงศ์ ได้ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมว่า เป็นอาวุธปืนที่ตนกับนายศาตรา หรือ ตั้ม ได้นำไปใช้ก่อเหตุจริง โดยหลังก่อเหตุได้นำไปฝากไว้กับนายมารุต แต่นายมารุต กลัวความผิดจึงได้นำไปซุกซ่อนไว้ในถังพลาสติกที่อยู่ระหว่างบ้านพักซึ่งใช้เป็นที่เก็บขวดน้ำพลาสติก โดยนาย ทวีวงศ์ ผู้ต้องหาที่ 1 และนายมารุต ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้ร่วมมือกระทำความผิดจริง ส่วน น.ส.อารยา ผู้ต้องหาที่ 3 ให้การภาคเสธ และนายศาตรา หรือ ตั้ม สุขสม ผู้ต้องหาที่หลบหนี 1 หลบหนีไป โดยอยู่ในระหว่างการสืบสวนติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป

ทั้งนี้ในการกระทำความผิดครั้งนี้ กลุ่มของคนร้ายได้ร่วมกันวางแผนลงมือกระทำความผิดในครั้งนี้เนื่องจากต้องการเงินนำไปใช้สอยเพื่อประโยชน์ส่วนตน  

- นายทวีวงศ์ หรือ ตูน ต้องการหาเงินไว้ใช้สำหรับต่อสู้คดีที่ตนถูกแจ้งดำเนินคดีที่ สน.ดินแดง ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อ 13 ส.ค.2556
มีประวัติถูกจับกุมข้อหา พกพาอาวุธปืนฯ ท้องที่ สน.นางเลิ้ง เมื่อ 29 ธ.ค.2552

- นายมารุต แก่นคำหล่อ มีประวัติถูกจับกุมข้อหา พรากผู้เยาว์ฯ ท้องที่ สภ.คลองหลวง เมื่อ 11 เม.ย.2549

- นายศาสตรา สุขสม มีประวัติ ถูกจับกุมข้อหา พยายามฆ่าฯ ท้องที่ สน.บุปผาราม เมื่อ 10 เม.ย.2554
และ ข้อหา ทำร้ายร่างกาย ท้องที่ สน.สำราญราษฎร์ เมื่อ 19 มิ.ย.2547

ที่มา FB กองบัญชาการตำรวจนครบาล https://goo.gl/GQnaKS
Read more ...

ผบช.น.ตรวจค้นบ้านผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ ธ.กสิกรไทย โลตัสพระราม 1

6 ก.ค. 2558
ด้วยเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2558 เวลาประมาณ 17.00 น. ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทรัพย์ของ ธนาคารกสิกรไทย สาขาเทสโก้โลตัส ถนนพระราม ๑ แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ได้เงินสดจำนวน 13,165,387.29 บาท แล้วหลบหนีไป คดีนี้คนร้ายก่อเหตุอุกอาจและเป็นที่สนใจของประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้ การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช, พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ, พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต, พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง, พล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข, พล.ต.ตนิพนธ์ เจริญผล, พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ รอง ผบช.น. ได้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6, พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.6 และ บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันทำการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามจับกุมคนร้าย พร้อมทรัพย์สินที่สูญหายไปตลอดมา

เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2558 เวลาประมาณ 17.00 น. จากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายได้นำอาวุธปืนที่ใช้ในการกระทำความผิด และทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดบางส่วน มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านพักในชุมชนป้ายเจ็ด แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้นบ้านพักดังต่อไปนี้

1. บ้านเลขที่ 1/6 ชุมชนป้ายเจ็ด แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

โดยมีนายวรวุฒิ แกนคำหล่อ เป็นผู้นำตรวจค้น ตามหมายค้นของอาญาที่ ค.237/2558 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2558 ผลการตรวจค้นพบ

1.อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 SPECIAL TAURUS ลูกโม่ 5 นัด จำนวน 1 กระบอก

2.อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 SPL. SMITH & WESSON 5 นัด จำนวน 1 กระบอก

3.อาวุธปืนไทยประดิษฐ ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก

4.อาวุธปืนอาวุธปืน ยี่ห้อ king calora สีน้ำเงิน จำนวน 1 กระบอก

5.ซองปืนพก จำนวน 4 ซอง (ผ้า 3 หนัง 1 )

6.ซองพลาสติกใส่ด้ามปืนยี่ห้อ HOGUE จำนวน 1 ซอง

7.กระสุน.38 SPL (ปลอกสีเงินหัวตะกั่ว) รวม จำนวน 27 นัด

8.กระสุนขนาด.22 ใส่ในกล่องกระดาษยี่ห้อ CCI จำนวน 38 นัด

9.กล่องใส่กระสุน 9 มม. ยี่ห้อ Bullet master สีดำ รวม จำนวน 14 นัด

10.แมกซีนใส่กระสุน GLock รวม จำนวน 15 นัด

11.ชุดทำความสะอาดปืน 2 ชุด

2.บ้านไม่มีเลขที่ ชุมชนป้ายเจ็ด ถนนสวรรคโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพฯ

โดยมี เป็นผู้นำตรวจค้น ตามหมายค้นของอาญาที่ ค.238/2558 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2558 ผลการตรวจค้นพบ

1.หมวกนิรภัย ชนิดเต็มใบ แบบเปิดหน้า สีดำ จำนวน 1 ใบ

2.รองเท้าแบบผู้ชาย สีเทา จำนวน 1 คู่

3.เสื้อคลุมแบบผู้ชาย จำนวน 2 ตัว (สีน้ำตาลเข้ม 1 ตัว, สีน้ำเงิน 1 ตัว)

4.กระเป๋าล้อลาก สีเทา-ดำ จำนวน 1 ใบ

5.นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ Rolex จำนวน 1 เรือน

6.ไอแพด จำนวน 2 เครื่อง

7.ป้ายทะเบียน รถจักรยานยนต์ กรุงเทพฯ จำนวน 1 แผ่น

8.สมุดบัญชี ธนาคารกรุงเทพ จำนวน 2 เล่ม

9.สมุดบัญชี ธนาคาร กสิกรไทย จำนวน 1 เล่ม

10.สมุดคู่มือจดทะเบียน รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 เล่ม

11.บัตร เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ จำนวน 1 ใบ

12.เงินสด 30,020 บาท

ธนบัตรฉบับละ 100 บาท จำนวน 6 ฉบับ

ธนบัตรฉบับละ 20 บาท จำนวน 142 ฉบับ

13.แหวนโลหะ สีทอง จำนวน 2 วง

14.แหวนโลหะ สีเงิน จำนวน 1 วง

15.สร้อยโลหะ สีเงิน จำนวน 1 เส้น

16.สร้องทองพร้อมพระเครื่องเลี่ยมทอง จำนวน 1 เส้น

17.สร้อยทองพร้อมจี้โลหะสีทอง จำนวน 1 เส้น

18.นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ TAG จำนวน 1 เรือน

19.แว่นกันแดด ยี่ห้อ เรแบน จำนวน 3 อัน

20.เอกสารสินเชื่อ จำนำทะเบียนรถยนต์ จำนวน 1 ชุด

21.แบบบ้านเฟื่องสุข 5 จำนวน 1 ฉบับ

22.กล่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อ ไอโฟน จำนวน 3 กล่อง

23.มีดปลายตัด ยาวประมาณ 1 ฟุต จำนวน 2 เล่ม

3. บ้านเลขที่ 63/43 ชุมชนป้ายเจ็ด ถนนสวรรคโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพฯ

ผลการตรวจค้นพบ

1.สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมพระหลวงพ่อโสธรเหลี่ยมทอง จำนวน 1 เส้น

2.ต่างหูทองคำน้ำหนักประมาณ 50 สตางค์ จำนวน 1 คู่

3.สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ จำนวน 1 เส้น

4.สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระสมเด็จเลี่ยมทอง 1 องค์ จำนวน 1 เส้น

5.สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมจี้ทองคำมะเส็ง 1 อัน จำนวน 1 เส้น

6.สร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ พร้อมจี้ 1 อัน จำนวน 1 เส้น

7.พระเลี่ยมทอง จำนวน 1 องค์

8.จี้ทองคำรูปหัวใจ จำนวน 1 อัน

9.แหวนทองคำฝังเพ็ชร จำนวน 1 วง

10.แหวนทองคำหนัก 50 สตางค์ จำนวน 5 วง

11.แหวนทองคำฝังพลอย จำนวน 3 วง

12.สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย สาขา ถนนหลานหลวง จำนวน 1 เล่ม

13.แว่นสายตาสีชมพู จำนวน 1 อัน

14.ธนบัตรรัฐบาลไทยชนิดต่างๆ รวมเป็นเงิน จำนวน 23,160 บาท

15.เงินเหรียญ 127.50 บาท

16.โฉนดที่ดิน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จดทะเบียนเมื่อ 3 ก.ค.2558 จำนวน 1 ฉบับ

สำหรับอาวุธปืนและทรัพย์สินที่ตรวจค้นพบตามรายการดังกล่าวข้างต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมเป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์การกระทำความผิดของคนร้ายต่อไป

ที่มา FBกองบัญชาการตำรวจนครบาล https://goo.gl/4mdtSE
Read more ...