สืบสวนปทุมวันรวบแก๊งวิ่งราวทรัพย์

26 ม.ค. 2558
ชุดสืบสวนปทุมวันติดตามจับกุมคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในท้องที่ต่างๆ รวม 3 คดีได้ผู้ต้องหารวม 3 ราย โดยมีพฤติกรรมขับขี่ จยย.กระชากสร้องคอทองคำผู้เสียหายก่อนขี่ จยย.หลบหนีไป

วันนี้ (26 ม.ค.2558) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)

พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. 
พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช 
พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต 
พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. พร้อมด้วย 
พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 
พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน 
พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.6 
พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน 
พ.ต.ท.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ รอง ผกก.สส. 
พ.ต.ท.ภูเมศ อั๊งสุวรรณกูล และ 
พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เสียงใส สว.สส.สน.ปทุมวัน 

ร่วมกันแถลงผลการจับกุม

1. นายกฤตนัย หรือหมี ศิลาวัชรพล อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.2/2558 ลงวันที่ 5 ม.ค. 58 และหมายจับศาลอาญา ที่ 160/2558 ลงวันที่ 25 ม.ค.58 

2. นายบารมี หรือบาร์ บุญอนันต์  อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.7/2558 ลงวันที่ 9 ม.ค. 58 และ

3. นายทวีศักดิ์ หรือต้น วันยุมา  อายุ 24 ปี 

พร้อมของกลาง

- รถจักรยานยนต์ยามาฮ่ามีโอ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กฎ 1678 กทม. จำนวน 1 คัน 
- สร้อยทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น 

โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามต่างสถานที่กัน ประกอบด้วย 

นายกฤตนัย ถูกจับกุมได้บริเวณตรอกเภตรา ถนนบรรทัดทอง แขวงและเขตราชเทวี กทม. 

นายบารมี ถูกจับกุมได้บริเวณซอยเพชรบุรี 10 แขวงและเขตราชเทวี กทม. และ

นายทวีศักดิ์ ถูกจับกุมในพื้นที่ของ สน.ปทุมวัน 

ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

พ.ต.ท.ภูเมศกล่าวว่า ผู้ค้องหาทั้ง 3 คนได้ก่อเหตุทั้ง 3 พื้นที่ซึ่งเป็นของ สน.ปทุมวัน อาทิ 

คดีที่ 1 เกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 ก.ค.57 บริเวณปากซอยจุฬา 12 ตัดถนนพญาไท ถนนพญาไท แขวงและเขตปทุมวัน กทม. 

นายกฤตนัย 
นายทวีศักดิ์ 
นายสุรพล เปิ้นสันเทียะ หรือเบนซ์ (ถูกจับกุมแล้ว) และ
นายจ่า (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) 

ขับขี่จักรยานยนต์ตระเวนมาตามเส้นทางดังกล่าวจำนวน 2 คัน โดยมีนายสุรพลเป็นคนขับ นายกฤตนัยเป็นคนซ้อน ส่วนอีกคันนายทวีศักดิ์เป็นคนขับ และนายจ่าซ้อนท้าย เมื่อถึงจึดเกิดเหตุนายกฤตนัยกระชากสร้ายคอจาก น.ส.พิมพ์นิภา ถิรภิญญาพัชร์ อายุ 21 ปี โดยมีนายทวีศักดิ์และนายจ่าที่ขับขี่จักรยานยนต์อีกคันหนึ่ง ตอยดูต้นทาง ก่อนจะหลบหนี

คดีที่ 2 เกิดเหตุเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 57 บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาหัวลำโพง ถนนพระราม 4 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. 

นายบารมี นายตี๋ (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) 
นายนัท (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) 
นายตั้ม (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) และ
นายปุ๊ (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) 

ขับขี่จักรยานยนต์มาตามทางจำนวน 3 คัน 
โดยคันแรกนายตี๋เป็นคนขับ มีนายนัทซ้อนท้าย คันที่ 2 นายบารมีเป็นคนขับ มีนายตั้มเป็นคนซ้อนท้าย และคันที่ 3 นายปุ๊ขับ ไม่มีผู้ซ้อนท้าย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ จักรยานยนต์ที่มีนายตั้มเป็นคนขับและมีนายนัทเป็นคนซ้อนท้าย กระชากสร้อยทองของผู้เสียหายไปหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้นแล้วหลบหนี ระหว่างนั้นนายบารมี นายตั้ม และนายปุ๊ทำหน้าที่คอยคุ้มกันและดูต้นทาง

คดีที่ 3 เกิดเหตุเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 58 บริเวณหน้าธนาคารทหารไทย สาขาบางลำพู ถนนสิบสามห้าง แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม. 

นายกฤตนัย 
นายทวีศักดิ์ 
นายนรากร หรัญรัตน์ หรือมาร์ค และ
นายพรเทพ พุ่มเพชร หรือเพชร 

ขับขี่จักรยานยนต์มา 2 คัน โดยมีนรากรเป็นคนขับและนายกฤตนัยเป็นคนซ้อนท้าย ทำการกระชากสร้อยคอจากผู้เสียหายหนักประมาณ 1 บาท จำนวน 1 เส้นแล้วหลบหนี ระหว่างนั้นนายทวีศักดิ์ และนายพรเทพ ทำหน้าที่คอยคุ้มกัน และดูต้นทางให้

จากการสืบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ทำมาแล้ว 3 ครั้ง และตระเวนก่อเหตุเช่นนี้ในพื้นที่อื่นๆ อีกซึ่งอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ที่มาผู้จัดการออนไลน์ เมื่อ 26 ม.ค.2558