จับแก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติรายใหญ่ ยาบ้ากว่าล้านเม็ด

30 มี.ค. 2558
ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ กองบังคับการตำรวจนครบาล ๖ ให้ทุกหน่วยในสังกัดทำการปราบปรามขยายผลจับกุมผู้ค้ายาเสพติดเพื่อลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ 

พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.
พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. (รับผิดชอบงานปราบปรามยาเสพติด)
พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น.(รับผิดชอบงานสืบสวน)
พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.๖
พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รอง ผบก.น.๖        
พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.๖
พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผกก.สส.บก.น.๖ ได้อำนวยการสั่งการให้
ร.ต.อ.ชนทัช เฉลาประโคน สว.กก.สส.บก.น.๖
ร.ต.อ.ธนศักดิ์ ปราสาททอง รอง สว.กก.สส.บก.น.๖
ร.ต.ท.ฉัฐวัฒน์ สิริเบญจศักดิ์ รอง สว.กก.สส.บก.น.๖ และ
ชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ ๒ กก.สส.บก.น.๖ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.

ให้ทำการปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติด โดยให้ขยายผลการจับกุมไปยังเครือข่ายให้มีผลเป็นรูปธรรม นั้น กก.สส.บก.น.๖ ได้ยึดแนวนโยบายของท่าน พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.๖ ที่ได้มอบหมายว่า “อาชญากรรมต้องลด ยาเสพติดต้องหมดไป” จึงได้ทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาและขยายผลทำลายเครือข่ายได้ โดยร่วมกันทำการจับกุมผู้ต้องหาดังนี้ คือ

๑. ดาบตำรวจจิรวัฒน์ หรือวัฒน์ มาไกล อายุ ๔๘ ปี

๒. นายชัยณรงค์ หรือโหน่ง เจริญ อายุ ๓๕ ปี

๓. นางสาวธัญพิมล หรือแตน มะโนจี๋ อายุ ๔๒ ปี

๔. เด็กหญิงมาย (นามสมมุติ) อายุ ๑๓ ปี

๕. นายภาณุพงศ์ หรือตั้ม คงใย อายุ ๒๘ ปี 


๖. นายโกศล หรือหนุ่ม ชมบ้านแพ้ว อายุ ๒๗ ปี

๘. นายปกรณ์ หรือ มอส พรหมรักษา อายุ ๒๑ ปี


๘. นายวีรพงศ์ หรือ แดง แก้วบุตร อายุ ๒๒ ปี

๙. นายสุเมธ หรือ เกมส์ สุดทรวง อายุ ๑๙ ปี

๑๐. นายทิชากร หรือ นุ๊ก ยั่งยืน อายุ ๒๔ ปี


พร้อมด้วยของกลางคือ

๑. ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวนประมาณ ๑,๐๐๐,๐๐๐ เม็ด บรรจุอยู่ในถุงหิ้วกระสอบปุ๋ยอีกทีหนึ่ง จำนว ๓ กระสอบ ยึดได้จากบริเวณเบาะผู้โดยสารแถวที่ ๓ ในรถตู้ ของกลางรายการที่ ๓

๒. ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ เม็ด ยึดได้จากบริเวณท้ายรถกระบะของกลางรายการที่ ๔

๓. รถตู้ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน นข -๑๖๗๑  น่าน (ผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่)

๔. รถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ หมายเลขทะเบียน ๑ฒช ๓๘๗๕ กรุงเทพมหานคร(ผู้ต้องหาที่ ๕ เป็นผู้ขับขี่)

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

สถานที่จับกุม บริเวณถนน หน้ารังสิตซอกเกอร์คลับ เลขที่ ๓๙ ม.๖ ถ.พหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี

พฤติการณ์แห่งการจับกุม เมื่อวันที่ ๒๘ มี.ค.๕๘ เวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.๖ ได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปกปิดนาม)    ว่าสามารถติดต่อผู้จำหน่ายยาเสพติดและนำชี้สถานที่ส่งมอบยาเสพติด ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่ อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานีได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.๖ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและร่วมทำการประชุมวางแผนเพื่อทำการจับกุมและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำ บช.ปส.

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ ๐๖.๐๐ น.ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้วางกำลังตามแนวเส้นทางที่คาดว่าผู้ขนยาเสพติดดังกล่าวจะนำรถมาจอดเพื่อส่งมอบยาเสพติดให้กับลูกค้าและสายลับ ต่อมาได้รับแจ้งจากสายลับว่าได้ใช้โทรศัพท์ พูดคุยกับผู้ที่จะนำยาเสพติดมาส่งให้ (ทราบภายหลังคือผู้ต้องหาที่ ๓) ได้แจ้งให้สายลับทราบว่า ได้ขับขี่รถตู้สีเทา มาส่งยาเสพติด โดยจะจอดบริเวณริมถนนด้านหน้าโรงพยาบาลภัทร อำเภอคลองหลวง จังหวัด ปทุมธานี

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังไปซุ่มรออยู่บริเวณใกล้เคียงดังกล่าว จนกระทั่งเวลาประมาณ ๐๖.๓๐ น.ของวันเดียวกัน ได้มีรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน ๑ฒช-๓๘๗๕ กทม. (ของกลางรายการที่ ๔) มาจอดเปิดไฟเลี้ยวซ้ายอยู่ที่บริเวณริมถนนหน้ารังสิตซอกเกอร์คลับ เลขที่ ๓๙ ม.๖ ถ.พหลโยธิน ที่เกิดเหตุ สักครู่หนึ่ง จึงได้รถตู้สีเทา (ของกลางรายการที่ ๓) ซึ่งตรงตามที่สายลับได้แจ้งไว้ มาจอดที่บริเวณด้านท้ายรถยนต์กระบะที่จอดเปิดไฟอยู่ดังกล่าว และได้มีชายไทยไม่ทราบชื่อ (ภายหลังคือผู้ต้องหาที่ ๒) ได้เดินลงมาจากรถตู้ด้านเบาะข้างคนขับและขนถุงลักษณะเป็น กระสอบออกจากรถตู้ (ของกลางรายการที่ ๓) จำนวน ๑ ถุง ไปวางไว้ที่บริเวณกระบะท้ายรถกระบะ (ของกลางรายการที่ ๔) และกำลังเดินกลับไปขึ้นรถตู้ ซึ่งเชื่อว่าได้นำยาเสพติดที่ซุกซ่อนอยู่ภายในถุงดังกล่าวมาส่งมอบให้กัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.    ให้ทราบ ขอทำการตรวจค้นตัวผู้ต้องหาที่ ๒ และรถทั้ง ๒ คัน (ของกลางรายการที่ ๓ และ ๔) ดังกล่าว ผลการตรวจค้นตัวผู้ต้องหาที่ ๒ ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย.

 ส่วนการตรวจค้นรถตู้ พบยาเสพติดของกลางรายการที่ ๑ อยู่ในรถตู้ดังกล่าว และพบผู้ต้องหาที่ ๑,๓,๔ อยู่ในรถตู้ โดย ผู้ต้องหาที่ ๑ เป็น   ผู้ขับขี่ จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ ๑ รับว่าได้ร่วมกับผู้ต้องหาที่ ๓ ซึ่ง ทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับลูกค้า และ เจ้าของยาเสพติด ไม่ทราบชื่อสกุลจริง    ผู้ต้องหาที่ ๓ เรียกว่า พี่หรือเฮีย ชาวพม่า ซึ่งใช้โทรศัพท์มือถือ หมายเลข ...............นำยาเสพติด (ของกลางรายการที่ ๑) มาส่งมอบให้ผู้ต้องหาที่ ๖ ซึ่งเป็นลูกค้าบริเวณที่เกิดเหตุจริง โดยได้ขนยาเสพติดลงมาจากจังหวัดเชียงรายเพื่อส่งให้ลูกค้า (ผู้ต้องหาที่ ๖) และลูกค้ารายอื่นรวม ๕ ราย นอกจากนี้ยังพบบัญชีรายชื่อลูกค้าตามเจ้าของยาเสพติดที่เขียนไว้ในกระดาษ (ตามของกลางรายการที่ ๑๒) และยังพบผู้ต้องหาที่ ๔ ซึ่งเป็นบุตรสาวของผู้ต้องหาที่ ๑  นั่งโดยสารมาในรถตู้ดังกล่าว และจากการตรวจค้นรถกระบะ (ของกลางรายการที่ ๔) พบยาเสพติดของกลางรายการที่ ๒ บริเวณท้ายรถกระบะดังกล่าว และพบผู้ต้องหาที่ ๕ เป็นผู้ขับขี่ โดยมี ผู้ต้องหาที่ ๖ และที่ ๗ นั่งมาในรถด้วย จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ ๖ รับว่าเป็นผู้ทำหน้าที่สั่งซื้อยาเสพติดจากเจ้าของยาเสพติด โดยเจ้าของยาเสพติดได้มอบหมายให้ผู้ต้องหาที่ ๓ เป็นผู้นำยาเสพติดมาส่งให้กับผู้ต้องหาที่ ๖ จริง

เนื่องจากเครือข่ายนี้ได้มีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ระบาดยาเสพติดหลายจังหวัด เช่น ระยอง, สระบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ  และเขตบางนา กรุงเทพฯ รวมถึงพื้นที่ภาคใต้อีกหลายจังหวัด ทาง กก.สส.บก.น.๖ ได้ร่วมปฏิบัติกับ ปปส., บช.ปส. และกองกำกับการสืบสวนจังหวัดระยอง ร่วมกันขยายผลในพื้นที่จังหวัดระยองจนสามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดได้เพิ่มเติมอีก ๑ รายคือ

นายทิชากร หรือนุ๊ก ยั่งยืน อายุ ๒ ปี  บ้านเลขที่ ๔ ซ.ทุ่งสำนัก-มาบใน ถ.ทางหลวงระยอง สาย ๓๑๙๑ ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง 

จับได้ที่บริเวณริมถนนสาย ๓๑๙๑ ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” จากการจับกุมในครั้งนี้ทำให้ทราบว่า เครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดระยองมีความเกี่ยวข้องกับผู้ค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน  โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่องจนได้ทราบถึงเครือข่ายในจังหวัดระยอง และจังหวัดใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ตรวจยึดยาเสพติดของกลางได้ปริมาณมากถึง ๑,๒๐๐,๐๐๐ เม็ด 

นับเป็นการทำลายวงจรเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดครั้งสำคัญ เนื่องจากสามารถสกัดยาเสพติดไม่ให้นำมาจำหน่ายในพื้นที่ต่างๆ ได้เป็นจำนวนมาก และการขยายผลจับกุมครั้งนี้ ใช้เวลาเพียง ๒ คืน ต้องทำงานแข่งกับเวลาที่จำกัดตามกฏหมาย จึงต้องใช้ความมานะ อุตสาหะ ในการปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง 
Read more ...

สืบ 6 รวบ "แก๊งพลอยแก้ว" ตระเวนปล้นทรัพย์และร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ ในเขตพื้นที่ บก.น.6,7,8,9 ก่อเหตุมาแล้ว นับร้อยครั้ง

30 มี.ค. 2558
ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้เร่งรัดสืบสวนปราบปราม จับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไป

กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ

พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., 
พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. , 
พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูตร รอง ผบช.น. , 
พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. , 
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. 

ได้เร่งรัดให้ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา และ บช.น. มีคำสั่งให้ระดมกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาตาม หมายจับในเขตพื้นที่ บช.น. ห้วงระยะเวลา ๒๓-๓๑ มี.ค.๕๘ เน้นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ฯ เพื่อลดการก่ออาชญากรรมในพื้นที่

กองบังคับการตำรวจนครบาล ๖ ภายใต้การอำนวยการของ

พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.๖, 
พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน , 
พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.๖, 
พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผกก.สส.บก.น.๖ ร่วมกับ 

กองบังคับการตำรวจนครบาล ๗ ภายใต้การอำนวยการของ 

พล.ต.ต.มานิตย์ จันทรคณา ผบก.น.๗, 
พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ รองผบก.น.๖, 
พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ ผกก.สน.บางกอกใหญ่ โดย 
พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย รอง ผกก.สส.สน.บางกอกใหญ่ และ 
ร.ต.อ.ชนทัช เฉลาประโคน สว.กก.สส.บก.น.๖ (หัวหน้าชุดจับกุม) พร้อมด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.๖ และ ฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกใหญ่ 

ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว

๑.นายกุลเดช หรือบัส เชาว์เฉียบ อายุ ๒๐ ปี

๒.นายศิริธรรม หรือแชมป์ จำรูญ อายุ ๑๙ ปี

๓.นายพัชรพลหรือมาร์ค บุญเที่ยง อายุ ๒๑ ปี

๔.นายจิรพัสหรือแจ๊ค ไชยกิจไพบูลย์ศรี อายุ ๒๑ ปี

๕.นายภาคภูมิ หรือแบ๊ะ ประดับธนกิจ อายุ ๑๙ ปี


สถานที่วันเวลาจับกุม กก.สส.บก.น.๖ (เชิญตัวมาจากบ้านเลขที่ ๒๒๕/๒๗๘ หมู่บ้านสินทวี กรีนวิลล์ ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ) และทำการจับกุมตัวที่ กก.สส.บก.น.๖ สถานที่วันเวลาเกิดเหตุ ในเขต บก.น. ๕ พื้นที่ สน.วัดพระยาไกร, บก.น. ๖ พื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ สน.จักรวรรดิ สน.พลับพลาไชย ๑ และ สน.พระราชวัง , เขต บก.น.๗ ท้องที่ สน.บางกอกน้อย และ สน.บางกอกใหญ่ , เขต บก.น.๘ และเขตพื้นที่ บก.น. ๙ พร้อมด้วยของกลางคือ

รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น MSX ๑๒๕ สีแดง-ดำ คันทะเบียน ๓ กม ๑๓๒๙ กทม.

โดยกล่าวหาว่า 

“ปล้นทรัพย์” และ “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด ฯ”

พฤติการณ์กล่าวคือ จากการบูรณาการประสานงานกันระหว่าง กก.สส.บก.น.๖ และ ฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกใหญ่ กรณีในเขตฝั่งพระนคร และฝั่งธนบุรีพื้นที่ บก.น.๕,๖,๗,๘ และ ๙ ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ร่วมกันก่อเหตุ ปล้นทรัพย์ และวิ่งราวทรัพย์ สร้อยคอทองคำบ่อยครั้ง โดยมักจะเลือกก่อเหตุในย่านธุรกิจการค้า, สถานที่ท่องเที่ยวและทำบุญ เช่น เยาวราช, เอเชียทีค, ศาลเจ้าพ่อเสือ เป็นต้น และพบว่ามีแผนประทุษกรรม,ตำหนิรูปพรรณคนร้าย และยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุสอดคล้องกัน และมีเส้นทางหลบหนีการจับกุมไปทางฝั่งธนบุรี 

กก.สส.บก.น.๖ และ ฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกใหญ่ สืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้าย จนพบเบาะแสทราบว่าคนร้าย กลุ่ม “แก๊งพลอยแก้ว” มี นายกุลเดช หรือบัส เชาว์เฉียบ ซึ่งตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ สน.บางกอกน้อย ในคดี “ปล้นทรัพย์และร่วมกันวิ่งราวทรัพย์” จำนวน ๘ หมายจับ เป็นหัวหน้าแก๊ง 

จึงได้วางแผนสืบสวนติดตามตัวจนทราบว่า นายกุลเดช กับพวก ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่ บ้านเลขที่ ๒๒๕/๒๗๘ หมู่บ้านสินทวี ตำบลบ้านคลองสวน อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ นายกุลเดช กับพวกรวม ๕ คน อาศัยอยู่ในบ้าน สอบสวนขยายผลนายกุลเดชกับพวกรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มาแล้ว ไม่ต่ำกว่า ๕๐ ครั้ง จึงได้ประสาน สน.ต่างๆ ติดตามผู้เสียหายที่ได้ร้องทุกข์ไว้มาชี้ยืนยันตัวผู้ต้องหาจนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับนายกุลเดชและพวก พร้อมกับผู้ต้องหาที่หลบหนีเพิ่มเติมได้อีก ๔ คน รวมเป็น ๙ คน รวมจำนวนหมายจับทั้งสิ้น ๒๙ หมาย 

จากการก่อเหตุใน พื้นที่ บก.น.๕ ,บก.น.๖,บก.น.๗,บก.น.๘ และ บก.น. ๙ และผู้ต้องหาได้นำชี้สถานที่เกิดเหตุและร้านรับซื้อของโจรที่นำสร้อยคอทองคำที่ได้จากการก่อเหตุไปจำหน่าย และได้ดำเนินคดีร้านรับซื้อสร้อยคอทองคำจากผู้ต้องหาในข้อหา “ประกอบกิจการค้าของเก่าโดยไม่ได้รับอนุญาต” และได้ตรวจยึดสร้อยคอทองคำที่พบในร้านมาตรวจสอบเพื่อให้ผู้เสียหายมาชี้ยืนยันเพื่อดำเนินคดีในข้อหา “รับของโจร” ต่อไป ผู้ต้องหาทั้ง ๕ คน ให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำความผิดและหลบหนี อีกจำนวน ๓ คน ดังนี้

๑.นายสหรัฐ หรือบิ๊ก ทองอุดม อายุ ๑๘ ปี

๒.นายศราวุธ หรือเบล หรือมอเร่ ปานทอง อายุ ๒๖ ปี

๓.นายนรวิชญ์ หรือไปรท์ สุขเจริญ อายุ ๒๐ ปี


หมายเหตุ รถจักรยานยนต์ที่กลุ่มคนร้ายใช้ในการก่อเหตุเป็นประจำมีดังนี้

๑.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น มีโอ สี ดำ-ทอง หรือ แดง-ขาว
๒.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น มีโอ สี ดำ-เทา หรือ ดำ-ม่วง
๓.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น ฟิโน่ สี น้ำเงิน-ขาว หรือ แดง-ดำ
๔.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น MSX สี แดง-ดำ
๕.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น ฟิโน่ สี น้ำเงิน-ขาว หรือ แดง-ดำ
๖.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ ๑๑๐ สีขาว

เครื่องแต่งกาย และหมวกนิรภัยที่สวมใส่ก่อเหตุเป็นประจำ

๑.หมวกนิรภัยแบบครึ่งใบ สีขาว,สีแดง และสีเทา
๒.หมวกนิรภัยแบบเต็มใบ สีดำ
๓.เสื้อแจ็คเก็ต แขนยาว สีดำ, สีขาว และสีชมพูอ่อน

จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาทั้ง ๕ คน ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิดและหลบหนี ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร มาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๖ ต่อเนื่องมาจนกระทั่งถูกจับกุม จำนวนหลายครั้ง

หากผู้เสียหายท่านใด ที่ประสบเหตุถูกวิ่งราวทรัพย์ในลักษณะดังกล่าว สามารถติดต่อขอดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.บางกอกน้อย และ สน.สำราญราษฎร์ หรือติดต่อ กก.สส.บก.น.๖ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว
Read more ...

ผบก.น.๖ เรียกประชุมข้าราชการตำรวจในสังกัด ระดับ สว.ขึ้นไป เพื่อติดตามผลการปฏิบัติและมอบนโนบายการบริหารงาน

12 มี.ค. 2558
     
เมื่อวันที่ ๑๒ มี.ค.๕๘ เวลา ๑๕.๐๐ น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.๖ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช รอง ผบก.น.๖ , พ.ต.อ.ชุมพร กาญจนรัตน์ รอง ผบก.น.๖ , พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รอง ผบก.น.๖ , พ.ต.อ.สินมนูญ์ พุทธิกุล รอง ผบก.น.๖, พ.ต.อ.ชัยยุทธ เจียรศิริกุล รอง ผบก.น.๖  และ พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.๖ ได้ประชุมบริหารข้าราชการตำรวจระดับ สว.ขึ้นไป ในสังกัด บก.น.๖ ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น ๒ บก.น.๖ เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานและมอบนโยบายการบริหารราชการ อาทิเช่น

- การถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์
- การป้องกันการก่อความไม่สงบ(เหตุ ๕๑๑)
- มาตรการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว
- การแก้ไขปัญหาจราจร และการทุจริตเงินค่าปรับจราจร
- การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมและป้องกันปราบปราบปรามอบายมุข
- งานมวลชนสัมพันธ์
- การประชุม กต.ตร.สน.
- โครงการ " ประชาอุ่นใจ เมื่อตำรวจไทยเข้าถึง( knock door )"
- การเตรียมความพร้อมการตรวจราชการของจเรตำรวจ
- การประสานความร่วมมือกับ ผอ.สำนักงานเขต ในพื้นที่, ทหารในพื้นที่
- ฯลฯ
Read more ...

พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ผู้ช่วย ผบ.ตร.(มค๒) พร้อม กทม.,กฟน.,กรมเจ้าท่า ,เจ้าหน้าที่ทหาร สำรวจจุดเสี่ยง/จุดล่อแหลม ท่าน้ำราชวงศ์ พื้นที่ สน.จักรวรรดิ

12 มี.ค. 2558










          เมื่อวันที่ ๑๑ มี.ค.๒๕๕๘ เวลา ๑๑.๐๐ น. พล.ต.ท.เดชณรงค์  สุทธิชาญบัญชา ผู้ช่วย ผบ.ตร.(มค๑) พร้อมด้วยคณะจาก กระทรวงกลาโหม , กทม., กฟน., ตำรวจน้ำ และ กรมเจ้าท่า ออกสำรวจจุดเสี่ยง/จุดล่อแหลม ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา  โดยเร่ิมจาก 
           ๑. ท่าเรือพระอาทิตย์
           ๒. ท่าเรือเทเวศน์
           ๓. ท่าเรือวังหลัง
           ๔.ท่าเรือสี่พระยา
           ๕. ท่าเรือสาธร 
            ๖.ท่าเรือราชวงศ์
           โดยมี พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์  ขลิบเงิน รอง ผบก.น.๖ , พ.ต.อ.ภพธร  จิตหมั่น ผกก.สน.จักรวรรดิ  ให้การต้อนรับและร่วมสำรวจจุดเสี่ยงดังกล่าว 

Read more ...

พล.อ.ปุรณิทธิ์ บุณยามานพ ผอ.สำนักงานรักษาความปลอดภัย กรมราชองครักษ์ อบรมให้ความรู้การถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.น.๖

12 มี.ค. 2558













         เมื่อวันที่ ๑๑ มี.ค.๕๘ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๒.๐๐ น. พล.อ.ปุรณิทธิ์  บุณยามานพ ผอ.สำนักงานรักษาความปลอดภัย กรมราชองครักษ์ พร้อมคณะ อบรมให้ความรู้การถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.น.๖  ณ สมาคมแต้จิ๋ว  โดยมี พล.ต.ต.ชยพล  ฉัตรชัยเดช  ผบก.น.๖ และ พ.ต.อ.อุทาสิน  ฤทธิ์เรืองเดช  รอง ผบก.น.๖ ให้การต้อนรับ


Read more ...