ตามรวบแก๊งขโมยรถย่านฝั่งธนบุรี เปิดเผยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 ก.พ.2559 ที่ สน.บางยี่ขัน
พ.ต.อ.กมล สุทธิแพทย์ รอง ผบก.น.7
พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผกก.สส.บก.น.6
พ.ต.อ.ธนพล บินทปัญญา พงส.ผทค.สน.บางยี่ขัน
พ.ต.ต.ชนทัช วุฒิภัทรโสภณ สว.สส.บก.น.6 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนบก.น.6
แถลงจับ
นายเมธาวัฒน์ หรือแอ๊ด สายแขก อายุ 26 ปี
ตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ จ 58/2559 และ
นายเฉลิมวุฒิ หรือจ็อบ แสงทรัพย์ อายุ 21 ปี
ตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ จ 59/2559 ลงวันที่ 19 ม.ค.2559
ข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุมและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัว ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมของกลาง เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ โดยตามจับกุมตัวทั้งคู่ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด หลังหนีไปกบดาน
พ.ต.อ.กมลกล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ก่อเหตุขโมยรถ จยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีแดงดำ ทะเบียน 4 กถ 3460 กรุงเทพมหานคร จากหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนอรุณอมรินทร์ แขวง ศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดยขณะก่อเหตุเจ้าของ จยย.มาเห็นพอดีเลยพยายามสกัดไม่ให้ขโมย จยย. นายเฉลิมวุฒิที่นั่งซ้อนท้าย จยย.อยู่ชักปืนยิงขึ้นฟ้า 1 นัด ขู่เจ้าของรถ และยิงอีก 2 นัดเพื่อเปิดทาง กระสุนพลาดไปโดนผู้เสียหายและแม่ค้าบริเวณดังกล่าวบาดเจ็บ ก่อนผู้ต้องหาทั้งคู่บิด จยย.ที่ขโมยมาหลบหนีมุ่งหน้าสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้ามุ่งหน้าฝั่งพระนคร ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวน บก.น.6 ประสานสืบสวน บก.น.7 เพื่อขอข้อมูลแก๊งขโมย จยย. เพื่อตามจับกุมคนร้าย พบว่าทั้งคู่เป็นแก๊งขโมยรถ จยย.ชื่อ “แก๊งโคนอน” เคยก่อเหตุในพื้นที่ บก.น.6 กว่า 10 ครั้ง กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าหลังก่อเหตุทั้งคู่หลบหนีไปอยู่ที่ จ.ร้อยเอ็ด และตามจับกุมได้ในที่สุด
สอบสวนเบื้องต้น นายเมธาวัฒน์สารภาพว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2553 เคยถูกจับกุมข้อหาลักทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ติดคุก 3 ปี 6 เดือน อยู่ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี จนพ้นโทษออกมาและได้ชวนนายเฉลิมวุฒิมาตั้งแก๊งออกขโมย จยย.อีกครั้ง โดยใช้เหล็กแหลมรูปตัวทีแทงที่รูกุญแจ จยย.ที่ขโมยเพื่อสตาร์ตรถหลบหนี ก่อนนำ จยย.ไปจอดทิ้งไว้ที่แถวสถานีรถไฟฟ้าโพธิ์นิมิตร ย่านฝั่งธนบุรี หลังจากนั้นนายไอซ์ (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ที่รับซื้อรถ จยย.ที่ขโมยมาจะส่งคนมารับรถอีกทอด โดยขายได้คันละ 5,000-10,000 บาท เน้นขโมย จยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ และฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดรถเถื่อนชายแดนประเทศพม่า ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุล่าสุดซื้อต่อจากเพื่อนในราคา 5,000 บาท และทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าไปแล้ว
“กลุ่มผู้ต้องหาจะหารถ จยย.ตามใบสั่ง และจะมีนายหน้ามารับรถต่ออีกทอด หลังจากนั้นจะแยกชิ้นส่วนหรือขนไปเป็นคัน ไปส่งที่จุดรับตามแนวตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศพม่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะตามสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆเพื่อทลายขบวนการ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย นำตัวส่ง พงส.สน.บางยี่ขัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” พ.ต.อ.กมลกล่าว
พ.ต.อ.กมลกล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ก่อเหตุขโมยรถ จยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีแดงดำ ทะเบียน 4 กถ 3460 กรุงเทพมหานคร จากหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนอรุณอมรินทร์ แขวง ศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดยขณะก่อเหตุเจ้าของ จยย.มาเห็นพอดีเลยพยายามสกัดไม่ให้ขโมย จยย. นายเฉลิมวุฒิที่นั่งซ้อนท้าย จยย.อยู่ชักปืนยิงขึ้นฟ้า 1 นัด ขู่เจ้าของรถ และยิงอีก 2 นัดเพื่อเปิดทาง กระสุนพลาดไปโดนผู้เสียหายและแม่ค้าบริเวณดังกล่าวบาดเจ็บ ก่อนผู้ต้องหาทั้งคู่บิด จยย.ที่ขโมยมาหลบหนีมุ่งหน้าสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้ามุ่งหน้าฝั่งพระนคร ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวน บก.น.6 ประสานสืบสวน บก.น.7 เพื่อขอข้อมูลแก๊งขโมย จยย. เพื่อตามจับกุมคนร้าย พบว่าทั้งคู่เป็นแก๊งขโมยรถ จยย.ชื่อ “แก๊งโคนอน” เคยก่อเหตุในพื้นที่ บก.น.6 กว่า 10 ครั้ง กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าหลังก่อเหตุทั้งคู่หลบหนีไปอยู่ที่ จ.ร้อยเอ็ด และตามจับกุมได้ในที่สุด
สอบสวนเบื้องต้น นายเมธาวัฒน์สารภาพว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2553 เคยถูกจับกุมข้อหาลักทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ติดคุก 3 ปี 6 เดือน อยู่ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี จนพ้นโทษออกมาและได้ชวนนายเฉลิมวุฒิมาตั้งแก๊งออกขโมย จยย.อีกครั้ง โดยใช้เหล็กแหลมรูปตัวทีแทงที่รูกุญแจ จยย.ที่ขโมยเพื่อสตาร์ตรถหลบหนี ก่อนนำ จยย.ไปจอดทิ้งไว้ที่แถวสถานีรถไฟฟ้าโพธิ์นิมิตร ย่านฝั่งธนบุรี หลังจากนั้นนายไอซ์ (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ที่รับซื้อรถ จยย.ที่ขโมยมาจะส่งคนมารับรถอีกทอด โดยขายได้คันละ 5,000-10,000 บาท เน้นขโมย จยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ และฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดรถเถื่อนชายแดนประเทศพม่า ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุล่าสุดซื้อต่อจากเพื่อนในราคา 5,000 บาท และทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าไปแล้ว
“กลุ่มผู้ต้องหาจะหารถ จยย.ตามใบสั่ง และจะมีนายหน้ามารับรถต่ออีกทอด หลังจากนั้นจะแยกชิ้นส่วนหรือขนไปเป็นคัน ไปส่งที่จุดรับตามแนวตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศพม่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะตามสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆเพื่อทลายขบวนการ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย นำตัวส่ง พงส.สน.บางยี่ขัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” พ.ต.อ.กมลกล่าว
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์ เมื่อ 15 ก.พ.2559 http://www.thairath.co.th/content/577565