เปิดโครงการ "เซฟตี้โซนเยาวราช" พื้นที่ สน.พลับพลาไชย 2

26 ต.ค. 2555
 
 
 
 
วันที่ 26 ต.ค.2555 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่วงเวียนโอเดียน ถนนเจริญกรุง

พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10)  
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. 
พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 
พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ทท. และ
พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ สายันประเสริฐ ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 

ร่วมกันเปิดโครงการเยาวราชเซฟตี้โซน 2012 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.น.6 ตำรวจท่องเที่ยว เทศกิจ และอาสาสมัครตำรวจบ้านเข้าร่วมปล่อยแถวออกตรวจพื้นที่กว่า 300 นาย

พล.ต.อ.วุฒิ เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ของการเปิดงานในครั้งนี้ว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงของการท่องเที่ยว โดยมีสถิติที่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามามากกว่าปกติวันละถึง 10% รัฐบาลจึงกำหนดนโยบายให้ตำรวจเร่งจัดทำมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการรวมตัวของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก 

นอกจากนี้ยังต้องเตรียมแผนการรองรับเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้าซึ่งถือเป็นวาระสำคัญ ดังนั้นทางบช.น.จึงเลือกพื้นที่เยาวราช ในความรับผิดชอบของ สน.พลับพลาไชย 2 เป็นพื้นที่นำร่องก่อน โดยโครงการดังกล่าวจะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าเดิม ซึ่งมีการเพิ่มกล้อง CCTV และอัพซอร์ฟเเวร์ไว้ใช้ให้ตำรวจดูสภาพพื้นที่ได้ผ่านทางโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์เพื่อความสะดวกรวดเร็ว

ทางด้าน พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เรากำหนดพื้นที่เซฟตี้โซนไว้อย่างครอบคลุุมทั้งถนนเจริญกรุง ถนนแปลงนาม ถนนทรงสวัสดิ์ และถนนเยาวราช โดยนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่คือกล้อง CCTV ทั้งของโรงพัก ของ บช.น.และของกทม. มาบูรณาการกันนับร้อยตัว และทุกตัวสามารถออนไลน์ส่งภาพไปดูได้ที่คอนโทรลรูมในป้อมควบคุมสัญญาณไฟจราจรแยกหมอมี 

นอกจากนี้ตนยังพัฒนาแอพพริเคชั่นให้ภาพที่ได้จากกล้อง CCTV เหล่านั้นไปปรากฏบนมือถือทั้งไอโฟนและแอนดรอยด์ได้อีกด้วย โดยขั้นตอนการดูภาพผ่านบนมือถือจะอนุญาตให้นายตำรวจระดับ รองสารวัตรทุกฝ่ายของสน.ลงทะเบียนเปิดดูได้เท่านั้น เพื่อป้องกันมิจฉาชีพหรือผู้ไม่หวังดีแฝงตัวเข้ามาใช้กล้องในทางที่ผิดได้

ที่มา นสพ.เดลินิวส์ออนไลน์ เมื่อ 26 ต.ค.2555
Read more ...

ผบช.น.ปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4พันนาย ระดมกวาดล้างอาชญากรรม

26 ต.ค. 2555
 
 
  
 
เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2555 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นประธาน ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงวันที่ 26-30 ตุลาคม 2555 โดยสนธิกำลังทุกฝ่าย ประกอบด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2,370 นาย พร้อมยานพาหนะ 614 คัน, พนักงาน รปภ.ป้องกันภัยอาชญากรรม จำนวน 880 คน, แท็กซี่จิตอาสาจำนวน 45 คัน รถแท็กซี่-รถจักรยานยนต์รับจ้าง 100 คัน ตำรวจบ้าน 880 คน อาสากู้ภัยจำนวน 27 คัน รวมกำลังพลที่เข้าร่วมทั้งสิ้น 4,275 คน

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า การปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมครั้งนี้ สืบเนื่องจากตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กวาดล้างในคดีอาวุธปืนและยาเสพติด รวมถึงคดีที่เกี่ยวกับชีวิตและทรัพย์สิน ยืนยันว่า สามารถควบคุมดูแลอาชญากรรมได้ แต่ภายหลังเกิดปัญหาฝนตกน้ำท่วมขังผิวจราจร ทำให้นำกำลังพลมาดูแลในการอำนวยการจราจร จึงส่งผลให้คดีเริ่มมากขึ้น ทำให้ต้องมาเน้นดูแลอีกครั้ง โดยเน้นการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน เพื่อช่วยกันดูแลสังคมอย่างเป็นรูปธรรม

ที่มา นสพ.ผู้จัดการออนไลน์ เมื่อ 26 ต.ค.2555


Read more ...

ผบก.น.6 แถลงข่าวกรณีการร้องเรียนกล่าวหาตำรวจ สน.สำราญราษฎร์

9 ต.ค. 2555
เมื่อ 25 ก.ย.2555

พลตำรวจตรีวัลลภ ประทุมเมือง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ชี้แจงกรณีข่าวที่มี เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ถูก นางสาวเกศินี เจริญสุข อายุ 18 ปี ภรรยาของนางมงคล สมประสงค์ ผู้ต้องหาจำหน่ายยาเสพติด ไปกล่าวอ้างว่าตำรวจชุดจับกุมได้ยึดทรัพย์ไปเป็นเกือบแสนบาท และทองรูปพรรณพร้อมทั้งมีการยึดบัตรเอทีเอ็ม และอ้างว่าไปกดเงินสดออกมากว่า 2 แสนบาทและมีข่าวตามหน้าสื่อต่าง ๆ

ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบบันทึกการตรวจยึด ไม่พบการตรวจยึดบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว  โดยตั้ง พันตำรวจเอกกิตภัค เพ็งรุ่ง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เป็นหัวหน้าคณะตรวจสอบ ว่าการตรวจยึดทรัพย์เป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่ โดยมีการสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุดภายใน 15 วัน เพราะต้องมีการตรวจสอบบันทึกการกดเงินสด และประสานธนาคารในการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าตู้เอทีเอ็ม

ทั้งนี้ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะมีการเรียกนางสาวเกศินีเข้าให้ข้อมูลอีกครั้งในสัปดาห์หน้า  พร้อมยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจผิดจริงก็จะมีการดำเนินการเอาผิดทางวินัยต่อไป

อย่างไรก็ตามกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 จะยังไม่มีการพักราชการหรือให้เข้ามาช่วยการการแต่อย่างใดเพราะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนและยืนยันว่าจะไม่มีการคุกคามผู้เสียหายอย่างแน่นอน

ที่มา http://www.tnews.co.th
Read more ...