ตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ให้ทุกพื้นที่เร่งรัดสืบสวนปราบปราม และจับกุมผู้กระทำความผิดในคดีอาญา ทุกประเภท ตลอดจนคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และคดียาเสพติดอย่างต่อเนื่องตลอดมา
วันที่ 15 กันยายน 2558 เวลา 11.30 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช, พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ, พล.ต.ต. ฉันทวิทย์ รามสูต, พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง, พล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข, พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล, พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์รอง ผบช.น. ได้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา
กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ภายใต้การอำนวยการโดย พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6, พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน, พ.ต.อ.สินมนูญ์ พุทธิกุล รอง ผบก.น.6, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน โดย พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน , พ.ต.ท.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน, พ.ต.ท.ภูเมศ อั๊งสุวรรณกูล, พ.ต.ท. บุญฤทธิ์ เสียงใส สว.สส.สน.ปทุมวัน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.6 ได้ร่วมกันทำการจับกุม
1. นายกิติศักดิ์หรือก้อง จุ้ยเจริญ อายุ 24 ปี อยู่ที่ 515/164 ตรอกวัดจันทร์ใน แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร (ผู้ถูกจับที่ 1)ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.610/2558 ลงวันที่ 12 กันยายน 2558
2. นายวิษณุหรือพีท (เหยิน) เรืองเดช อายุ 25 ปี อยู่ที่ 3 ม.6 ต.บางปลา อ.บางเลน จว.นครปฐม (ผู้ถูกจับที่ 2) ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.609/2558 ลงวันที่ 12 กันยายน 2558
พร้อมของกลาง
1. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ โซนี่อีริคสัน รุ่นเอ็กซ์พีเรีย สีขาว จำนวน 1 เครื่อง
2. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ110 สี ขาว-ดำ หมายเลขทะเบียน 2กค-9728 กทม.
3. หมวกนิรภัยแบบครึ่งใบ สีเทา จำนวน 1 ใบ
4. เสื้อแจ็ตเก็ตสีครีม จำนวน 1 ตัว
5. เสื้อยืดสีดำ สกรีน BODY GLOVE จำนวน 1 ตัว
6. กางเกงขาสั้นลายขาวแดง จำนวน 1 ตัว
7. รองเท้าผ้าใบสีขาว ยี่ห้อ K-SWISS จำนวน 1 คู่
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”
วันเวลา สถานที่เกิดเหตุ วันที่ 29 สิงหาคม 2558 เวลาประมาณ 15.30 น. ภายในบริเวณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
วันเวลา สถานที่ จับกุม
1) วันที่ 14 กันยายน 2558 เวลา 14.30 น. จับกุมนายกิติศักดิ์ฯที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคลโล เขตธนบุรี กทม.
2) วันที่ 14 กันยายน 2558 เวลาประมาณ 17.00 น.จับกุมตัวนายวิษณุฯที่ งามปัญจะอพาร์ทเม้นท์ แยกหนองใหญ่ ถ.บางแค แขวงบางแค เขตบางแค กทม.
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2558 เวลาประมาณ 15.30 น. ขณะที่ นางนันทนา บรรเจิดพงศ์ชัย (ผู้เสียหาย) ขี่รถจักรยานอยู่ภายในบริเวณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ สวมหมวกนิรภัยทั้ง 2 คน ก่อเหตุวิ่งราวเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายซึ่งวางอยู่บริเวณตระกร้าหน้ารถจักรยานแล้วหลบหนีไป และผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน
ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน และ กก.สส.บก.น.6 ได้ร่วมกันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ก่อเหตุและเส้นทางหลบหนีของคนร้าย จนสามารถได้ภาพตำหนิรูปพรรณคนร้ายทั้ง 2 คน และยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุอย่างชัดเจน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอหมายจับคนร้ายต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ตามหมายจับที่ 609/2558 และ 610/2558 ลงวันที่ 12 กันยายน 2558 ตามลำดับ
ต่อมา ในวันที่ 14 กันยายน 2558 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน และ กก.สส.บก.น.6 ได้สืบสวนทราบว่า คนร้ายที่ปรากฏตามภาพวงจรปิดดังกล่าว คือ นายวิษณุหรือพีท(เหยิน) เรืองเดช และ นายกิติศักดิ์หรือก้อง จุ้ยเจริญ โดยนายวิษณุฯทำหน้าที่เป็นผู้ขับขี่ ส่วนนายกิติศักดิ์ฯเป็นคนซ้อนท้าย จึงได้ออกสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมตัวนายกิตติศักดิ์ฯได้ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคลโล เขตธนบุรี กทม. และสามารถติดตามขยายผลจับกุมตัวนายวิษณุฯได้ที่งามปัญจะอพาร์ทเม้นท์ แยกหนองใหญ่ ถ.บางแค แขวงบางแค เขตบางแค กทม. ตามลำดับ โดยสามารถตรวจยึด รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ในวันที่เกิดเหตุได้ด้วย จากการสอบถาม นายกิติศักดิ์ฯและนายวิษณุฯได้ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุจริง โดยได้นำเอาโทรศัพท์มือถือที่วิ่งราวได้ไปขายในราคา 3,500 บาท จากนั้นนำเงินทีได้มาแบ่งกัน
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายวิษณุฯและนายกิติศักดิ์ฯ มีประวัติต้องโทษคดียาเสพติด คนละ 2 ครั้ง ในห้วงปี 2551-2553 และต่อมาได้ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร และถูกจับกุมตัวดำเนินคดีเมื่อปี 2554 ซึ่งนายวิษณุฯพ้นโทษออกมาก่อนในช่วงเดือนพฤษภาคม 2558 ส่วนนายกิติศักดิ์ฯพ้นโทษออกมาต้นเดือนสิงหาคม 2558 ซึ่งหลังจากพ้นโทษออกมา นายวิษณุฯได้ร่วมกันกับนายกิติศักดิ์ฯก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สินในพื้นที่ สน.ปทุมวัน, สน.บางรัก, สน.ทุ่งมหาเมฆ, สน.พลับพลาไชย 2 รวมทั้งสิ้น 7 ครั้ง (อยู่ระหว่างการตรวจสอบและติดตามผู้เสียหาย)ก่อนจะถูกจับกุมตัวในครั้งนี้ โดยที่ ทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด จะนำไปจำหน่ายมาแบ่งกันคนละครึ่งทุกครั้ง
Read more ...
วันที่ 15 กันยายน 2558 เวลา 11.30 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช, พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ, พล.ต.ต. ฉันทวิทย์ รามสูต, พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง, พล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข, พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล, พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์รอง ผบช.น. ได้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา
กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ภายใต้การอำนวยการโดย พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6, พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน, พ.ต.อ.สินมนูญ์ พุทธิกุล รอง ผบก.น.6, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน โดย พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน , พ.ต.ท.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน, พ.ต.ท.ภูเมศ อั๊งสุวรรณกูล, พ.ต.ท. บุญฤทธิ์ เสียงใส สว.สส.สน.ปทุมวัน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.6 ได้ร่วมกันทำการจับกุม
1. นายกิติศักดิ์หรือก้อง จุ้ยเจริญ อายุ 24 ปี อยู่ที่ 515/164 ตรอกวัดจันทร์ใน แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร (ผู้ถูกจับที่ 1)ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.610/2558 ลงวันที่ 12 กันยายน 2558
2. นายวิษณุหรือพีท (เหยิน) เรืองเดช อายุ 25 ปี อยู่ที่ 3 ม.6 ต.บางปลา อ.บางเลน จว.นครปฐม (ผู้ถูกจับที่ 2) ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.609/2558 ลงวันที่ 12 กันยายน 2558
พร้อมของกลาง
1. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ โซนี่อีริคสัน รุ่นเอ็กซ์พีเรีย สีขาว จำนวน 1 เครื่อง
2. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ110 สี ขาว-ดำ หมายเลขทะเบียน 2กค-9728 กทม.
3. หมวกนิรภัยแบบครึ่งใบ สีเทา จำนวน 1 ใบ
4. เสื้อแจ็ตเก็ตสีครีม จำนวน 1 ตัว
5. เสื้อยืดสีดำ สกรีน BODY GLOVE จำนวน 1 ตัว
6. กางเกงขาสั้นลายขาวแดง จำนวน 1 ตัว
7. รองเท้าผ้าใบสีขาว ยี่ห้อ K-SWISS จำนวน 1 คู่
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”
วันเวลา สถานที่เกิดเหตุ วันที่ 29 สิงหาคม 2558 เวลาประมาณ 15.30 น. ภายในบริเวณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
วันเวลา สถานที่ จับกุม
1) วันที่ 14 กันยายน 2558 เวลา 14.30 น. จับกุมนายกิติศักดิ์ฯที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคลโล เขตธนบุรี กทม.
2) วันที่ 14 กันยายน 2558 เวลาประมาณ 17.00 น.จับกุมตัวนายวิษณุฯที่ งามปัญจะอพาร์ทเม้นท์ แยกหนองใหญ่ ถ.บางแค แขวงบางแค เขตบางแค กทม.
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2558 เวลาประมาณ 15.30 น. ขณะที่ นางนันทนา บรรเจิดพงศ์ชัย (ผู้เสียหาย) ขี่รถจักรยานอยู่ภายในบริเวณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ สวมหมวกนิรภัยทั้ง 2 คน ก่อเหตุวิ่งราวเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายซึ่งวางอยู่บริเวณตระกร้าหน้ารถจักรยานแล้วหลบหนีไป และผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน
ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน และ กก.สส.บก.น.6 ได้ร่วมกันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ก่อเหตุและเส้นทางหลบหนีของคนร้าย จนสามารถได้ภาพตำหนิรูปพรรณคนร้ายทั้ง 2 คน และยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุอย่างชัดเจน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอหมายจับคนร้ายต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ตามหมายจับที่ 609/2558 และ 610/2558 ลงวันที่ 12 กันยายน 2558 ตามลำดับ
ต่อมา ในวันที่ 14 กันยายน 2558 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน และ กก.สส.บก.น.6 ได้สืบสวนทราบว่า คนร้ายที่ปรากฏตามภาพวงจรปิดดังกล่าว คือ นายวิษณุหรือพีท(เหยิน) เรืองเดช และ นายกิติศักดิ์หรือก้อง จุ้ยเจริญ โดยนายวิษณุฯทำหน้าที่เป็นผู้ขับขี่ ส่วนนายกิติศักดิ์ฯเป็นคนซ้อนท้าย จึงได้ออกสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมตัวนายกิตติศักดิ์ฯได้ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคลโล เขตธนบุรี กทม. และสามารถติดตามขยายผลจับกุมตัวนายวิษณุฯได้ที่งามปัญจะอพาร์ทเม้นท์ แยกหนองใหญ่ ถ.บางแค แขวงบางแค เขตบางแค กทม. ตามลำดับ โดยสามารถตรวจยึด รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ในวันที่เกิดเหตุได้ด้วย จากการสอบถาม นายกิติศักดิ์ฯและนายวิษณุฯได้ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุจริง โดยได้นำเอาโทรศัพท์มือถือที่วิ่งราวได้ไปขายในราคา 3,500 บาท จากนั้นนำเงินทีได้มาแบ่งกัน
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายวิษณุฯและนายกิติศักดิ์ฯ มีประวัติต้องโทษคดียาเสพติด คนละ 2 ครั้ง ในห้วงปี 2551-2553 และต่อมาได้ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร และถูกจับกุมตัวดำเนินคดีเมื่อปี 2554 ซึ่งนายวิษณุฯพ้นโทษออกมาก่อนในช่วงเดือนพฤษภาคม 2558 ส่วนนายกิติศักดิ์ฯพ้นโทษออกมาต้นเดือนสิงหาคม 2558 ซึ่งหลังจากพ้นโทษออกมา นายวิษณุฯได้ร่วมกันกับนายกิติศักดิ์ฯก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สินในพื้นที่ สน.ปทุมวัน, สน.บางรัก, สน.ทุ่งมหาเมฆ, สน.พลับพลาไชย 2 รวมทั้งสิ้น 7 ครั้ง (อยู่ระหว่างการตรวจสอบและติดตามผู้เสียหาย)ก่อนจะถูกจับกุมตัวในครั้งนี้ โดยที่ ทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด จะนำไปจำหน่ายมาแบ่งกันคนละครึ่งทุกครั้ง
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา