เดือด! พ่อค้าแผงพระบริเวณถนนมหาราช โมโหถูกเทศกิจไล่ที่ห้ามขายของ คว้าสากทุบหัวก่อนคว้ามีดแทงแขนเจ็บหนัก ระบุเจ้าหน้าที่ใช้คำหยาบคายและตบหน้า
วันนี้ (1 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ขณะที่ ร.ต.อ.ทรงพล นิ่มไพบูลย์ รอง สว.ป.สน.พระราชวัง ออกตรวจพื้นที่บริเวณริมทางเท้าถนนมหาราช หน้าสโมสรข้าราชบริพาร แขวงพระบรมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. พบเห็นเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร ทราบชื่อต่อมา
นายสกล สวนสมบูรณ์ อายุ 37 ปี
กำลังมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้ค้าแผงพระ และใช้กำลังทำร้ายร่างกายกัน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เทศกิจถูกแทงด้วยมีดพับได้รับบาดเจ็บ จึงรีบนำตัวส่ง รพ.ศิริราช พร้อมทั้งควบคุมตัว
นายพันธุ์ศักดิ์ ธนะพัฒน์ อายุ 57 ปี อาชีพพ่อค้าขายพระ ชาว จ.สระบุรี
พร้อม
มีดพกยาวขนาด 5 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม และ
สาก จำนวน 1 อัน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทาง นายสกล เจ้าหน้าที่เทศกิจได้เดินตรวจความเรียบร้อยบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเป็นจุดห้ามผู้ค้ามาตั้งแผงขายของบริเวณทางเท้า พบ นายพันธุ์ศักดิ์ วางแผงพระขาย จึงไล่ไม่อนุญาตให้ขาย
ต่อมาขณะที่ นายสกล เผลอ นายพันธุ์ศักดิ์ ได้ใช้สากตีที่ศีรษะของนายสกลจนเลือดอาบ ก่อนชักมีดพกยาว ขนาด 5 นิ้ว แทงเข้าที่แขนซ้าย จำนวน 2 แผล ชาวบ้านจึงรีบเข้าควบคุมตัวนายพันธุ์ศักดิ์ไว้นำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ต่อสู้ ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง ดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ที่สน.พระราชวัง พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.อลงกรณ์ สดคมขำ ผกก.สน.พระราชวัง ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายพันธุ์ศักดิ์ หรือ พัน ธนะพัฒน์ อายุ 57 ปี ชาวจังหวัดสระบุรี อาชีพรับเช่าบูชาพระเครื่อง หลังก่อเหตุใช้มีดแทง นายสกล สวนสมบูรณ์ อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายพันธุ์ศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2521 ตนเคยเป็นทหารผ่านศึก เคยรบกับกัมพูชา ก่อนที่จะลาออกจากราชการมาประกอบอาชีพรับเช่าพระเครื่องทั่วประเทศ และตนเพิ่งกลับจากปล่อยพระที่จังหวัดชลบุรี โดยเพื่อนของตนบอกว่าจุดดังกล่าวสามารถตั้งแผงขายของได้ เพราะเป็นวันเสาร์ - อาทิตย์ ซึ่งมีคนเดินเยอะ เจ้าหน้าที่คงจะไม่จับ ตนจึงตัดสินมาวางแผง จากนั้นขณะเกิดเหตุมีลูกค้ากำลังเลือกดูพระ 2 คน ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มแรก ก่อนที่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวจะเข้ามาไล่ และไม่อนุญาตให้ตนวางของขาย พร้อมพูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคายและตรงเข้ามาตบหน้าตน ด้วยความโมโหจึงเข้าทำร้ายร่างกาย
ทั้งนี้ หากตอนนั้นมีปืนจะยิงให้ตาย เพราะเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี และเคยทำงานเพื่อชาติมาก่อน จะมาดูถูกตนแบบนี้ไม่ได้
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทาง นายสกล เจ้าหน้าที่เทศกิจได้เดินตรวจความเรียบร้อยบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเป็นจุดห้ามผู้ค้ามาตั้งแผงขายของบริเวณทางเท้า พบ นายพันธุ์ศักดิ์ วางแผงพระขาย จึงไล่ไม่อนุญาตให้ขาย
ต่อมาขณะที่ นายสกล เผลอ นายพันธุ์ศักดิ์ ได้ใช้สากตีที่ศีรษะของนายสกลจนเลือดอาบ ก่อนชักมีดพกยาว ขนาด 5 นิ้ว แทงเข้าที่แขนซ้าย จำนวน 2 แผล ชาวบ้านจึงรีบเข้าควบคุมตัวนายพันธุ์ศักดิ์ไว้นำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ต่อสู้ ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง ดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ที่สน.พระราชวัง พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.อลงกรณ์ สดคมขำ ผกก.สน.พระราชวัง ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายพันธุ์ศักดิ์ หรือ พัน ธนะพัฒน์ อายุ 57 ปี ชาวจังหวัดสระบุรี อาชีพรับเช่าบูชาพระเครื่อง หลังก่อเหตุใช้มีดแทง นายสกล สวนสมบูรณ์ อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายพันธุ์ศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2521 ตนเคยเป็นทหารผ่านศึก เคยรบกับกัมพูชา ก่อนที่จะลาออกจากราชการมาประกอบอาชีพรับเช่าพระเครื่องทั่วประเทศ และตนเพิ่งกลับจากปล่อยพระที่จังหวัดชลบุรี โดยเพื่อนของตนบอกว่าจุดดังกล่าวสามารถตั้งแผงขายของได้ เพราะเป็นวันเสาร์ - อาทิตย์ ซึ่งมีคนเดินเยอะ เจ้าหน้าที่คงจะไม่จับ ตนจึงตัดสินมาวางแผง จากนั้นขณะเกิดเหตุมีลูกค้ากำลังเลือกดูพระ 2 คน ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มแรก ก่อนที่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวจะเข้ามาไล่ และไม่อนุญาตให้ตนวางของขาย พร้อมพูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคายและตรงเข้ามาตบหน้าตน ด้วยความโมโหจึงเข้าทำร้ายร่างกาย
ทั้งนี้ หากตอนนั้นมีปืนจะยิงให้ตาย เพราะเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี และเคยทำงานเพื่อชาติมาก่อน จะมาดูถูกตนแบบนี้ไม่ได้