พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช รอง ผบก.น.6
พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.
พ.ต.อ.เทียนชัย คามะปะโส ผกก.สน.ปทุมวัน
ร่วมแถลงข่าวจับกุม
1. นายประพรรณศักดิ์ หรือ เสือ พรมงาม อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 479/95 ซอยสุทธิพร แขวงและเขตดินแดง กทม.
2. น.ส.ศศิธร หรือ เร ติยะโคตร อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160/11 หมู่ 11 ซอยนพรัตน์ แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม.
สองผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ จ.111/2556 และ จ.112/2556 ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่กายสาหัสโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
พร้อมของกลาง
- มีดคัตเตอร์สีส้ม 1 เล่ม
- รถจยย.ซูซูกิ สีขาว ทะเบียน สงฉ-174 กรุงเทพมหานคร และ
- กางเกงวอร์มสีกรมท่า 1 ตัว ที่นายประพรรณศักดิ์ใส่ก่อเหตุ
พ.ต.อ.อุทาสิน เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ
ผศ.ดร.จิรวัฒน์ ชีวรุ่งโรจน์ อายุ 49 ปี รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา ภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตเลียม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ถูกคนร้ายใช้มีดคัตเตอร์กรีดที่กลางหลังและท่อนแขนเป็นแผลฉกรรจ์บาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนพบประเด็นที่ แฟนสาวของ น.ส.ศศิธร ซึ่งเป็นนิสิต ป.โท มีปัญหาขัดแย้งกับตัว ผศ.ดร.จิรวัฒน์
จากนั้นก็พบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุและพยานบุคคลยืนยันว่านายประพรรณศักดิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส.ศศิธร คือผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ
จากนั้นก็พบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุและพยานบุคคลยืนยันว่านายประพรรณศักดิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส.ศศิธร คือผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ
จึงให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับ ก่อนจะกระจายกำลังกันออกติดตามตัวได้บริเวณหน้าโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ถนนวิภาวดีรังสิต
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายประพรรณศักดิ์ ให้การซัดทอดว่า น.ส.ศศิธร ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมคณะวิศวกรรมสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ขอให้ตัวเองช่วยลงมือทำร้าย ผศ.ดร.จิรวัฒน์ เนื่องจากโกรธแค้นที่ ไม่ยอมให้แฟนสาวของ น.ส.ศศิธร ที่กำลังเรียนปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ จบหลักสูตร เนื่องจากมีปัญหาด้านการสอบและทำวิทยานิพนธ์ไม่ผ่าน ทั้งที่เวลาผ่านมานานกว่า 4 ปี ด้วยความโกรธแค้นแทนเพื่อน นายประพรรณศักดิ์ จึงไปหาซื้อมีดคัตเตอร์ รวมทั้งวิกผมกับถุงมือมาเพื่อใช้ในการอำพรางตัวปิดบังใบหน้า จนกระทั่งวันที่ 7 ก.พ.ได้ไปดักรอ ผศ.ดร.จิรวัฒน์ แล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่พบ
กระทั่งวันที่ 11 ก.พ. จึงขี่จยย.มาดักรอที่หน้าอาคารอาคารวิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตเลียม จุฬาฯอีกครั้ง ถึงพบตัว ผศ.ดร.จิรวัฒน์ ออกมาจากอาคาร จึงเดินตามไปตั้งใจจะคุยด้วย แต่ตัวผศ.ดร.จิรวัฒน์ กลับเดินหนี จึงใช้มีดคัตเตอร์ฟันกลางหลังจน ผศ.ดร.จิรวัฒน์ ล้มลงไปที่พุ่มไม้ ก่อนจะฟันซ้ำอีกครั้ง แล้ววิ่งหลบหนีไปขึ้นจยย.ที่ตัวเองจอดทิ้งไว้ที่หลังอาคารชารล เอม สัน เกเวอรต หลบหนีออกทางประตูคณะบัญชี จุฬาฯ เพื่อนำวิกผมไปโยนทิ้งคลองแสนแสบ ส่วนถุงมือนำไปทิ้งบึงมักกะสัน และทิ้งมีดคัตเตอร์ ทิ้งหน้าแฟลตดินแดง
ด้าน พ.ต.อ.นพศิลป์ กล่าวว่า ต่อมาทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติจากศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อออกหมายจับ น.ส.ศศิธร ผู้ต้องหาอีกราย ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ที่บ้านพักของ น.ส.ศศิธร เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ และจะขอให้การในชั้นศาล เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ต่อมาเจ้าหน้าที่นำตัวนายประพรรณศักดิ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยเริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าอาคารวิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตเลียม ที่มาดักรอ จากนั้นเป็นจุดทางเดินทางที่ลงมือทำร้ายผศ.ดร.จิรวัฒน์ จุดที่ 3 เป็นจุดจอดจยย.ที่บริเวณด้านหลังอาคารชารล เอม สัน เกเวอรต และจุดสุดท้าย บริเวณประตูทางออกหน้าคณะบัญชีจุฬาฯ ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายประพรรณศักดิ์ ให้การซัดทอดว่า น.ส.ศศิธร ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมคณะวิศวกรรมสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ขอให้ตัวเองช่วยลงมือทำร้าย ผศ.ดร.จิรวัฒน์ เนื่องจากโกรธแค้นที่ ไม่ยอมให้แฟนสาวของ น.ส.ศศิธร ที่กำลังเรียนปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ จบหลักสูตร เนื่องจากมีปัญหาด้านการสอบและทำวิทยานิพนธ์ไม่ผ่าน ทั้งที่เวลาผ่านมานานกว่า 4 ปี ด้วยความโกรธแค้นแทนเพื่อน นายประพรรณศักดิ์ จึงไปหาซื้อมีดคัตเตอร์ รวมทั้งวิกผมกับถุงมือมาเพื่อใช้ในการอำพรางตัวปิดบังใบหน้า จนกระทั่งวันที่ 7 ก.พ.ได้ไปดักรอ ผศ.ดร.จิรวัฒน์ แล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่พบ
กระทั่งวันที่ 11 ก.พ. จึงขี่จยย.มาดักรอที่หน้าอาคารอาคารวิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตเลียม จุฬาฯอีกครั้ง ถึงพบตัว ผศ.ดร.จิรวัฒน์ ออกมาจากอาคาร จึงเดินตามไปตั้งใจจะคุยด้วย แต่ตัวผศ.ดร.จิรวัฒน์ กลับเดินหนี จึงใช้มีดคัตเตอร์ฟันกลางหลังจน ผศ.ดร.จิรวัฒน์ ล้มลงไปที่พุ่มไม้ ก่อนจะฟันซ้ำอีกครั้ง แล้ววิ่งหลบหนีไปขึ้นจยย.ที่ตัวเองจอดทิ้งไว้ที่หลังอาคารชารล เอม สัน เกเวอรต หลบหนีออกทางประตูคณะบัญชี จุฬาฯ เพื่อนำวิกผมไปโยนทิ้งคลองแสนแสบ ส่วนถุงมือนำไปทิ้งบึงมักกะสัน และทิ้งมีดคัตเตอร์ ทิ้งหน้าแฟลตดินแดง
ด้าน พ.ต.อ.นพศิลป์ กล่าวว่า ต่อมาทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติจากศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อออกหมายจับ น.ส.ศศิธร ผู้ต้องหาอีกราย ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ที่บ้านพักของ น.ส.ศศิธร เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ และจะขอให้การในชั้นศาล เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ต่อมาเจ้าหน้าที่นำตัวนายประพรรณศักดิ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยเริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าอาคารวิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตเลียม ที่มาดักรอ จากนั้นเป็นจุดทางเดินทางที่ลงมือทำร้ายผศ.ดร.จิรวัฒน์ จุดที่ 3 เป็นจุดจอดจยย.ที่บริเวณด้านหลังอาคารชารล เอม สัน เกเวอรต และจุดสุดท้าย บริเวณประตูทางออกหน้าคณะบัญชีจุฬาฯ ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ต่อไป