สืบ 6 รวบ "แก๊งพลอยแก้ว" ตระเวนปล้นทรัพย์และร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ ในเขตพื้นที่ บก.น.6,7,8,9 ก่อเหตุมาแล้ว นับร้อยครั้ง

30 มี.ค. 2558
ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้เร่งรัดสืบสวนปราบปราม จับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไป

กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ

พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., 
พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. , 
พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูตร รอง ผบช.น. , 
พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. , 
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. 

ได้เร่งรัดให้ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา และ บช.น. มีคำสั่งให้ระดมกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาตาม หมายจับในเขตพื้นที่ บช.น. ห้วงระยะเวลา ๒๓-๓๑ มี.ค.๕๘ เน้นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ฯ เพื่อลดการก่ออาชญากรรมในพื้นที่

กองบังคับการตำรวจนครบาล ๖ ภายใต้การอำนวยการของ

พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.๖, 
พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน , 
พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.๖, 
พ.ต.อ.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผกก.สส.บก.น.๖ ร่วมกับ 

กองบังคับการตำรวจนครบาล ๗ ภายใต้การอำนวยการของ 

พล.ต.ต.มานิตย์ จันทรคณา ผบก.น.๗, 
พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ รองผบก.น.๖, 
พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ ผกก.สน.บางกอกใหญ่ โดย 
พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย รอง ผกก.สส.สน.บางกอกใหญ่ และ 
ร.ต.อ.ชนทัช เฉลาประโคน สว.กก.สส.บก.น.๖ (หัวหน้าชุดจับกุม) พร้อมด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.๖ และ ฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกใหญ่ 

ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว

๑.นายกุลเดช หรือบัส เชาว์เฉียบ อายุ ๒๐ ปี

๒.นายศิริธรรม หรือแชมป์ จำรูญ อายุ ๑๙ ปี

๓.นายพัชรพลหรือมาร์ค บุญเที่ยง อายุ ๒๑ ปี

๔.นายจิรพัสหรือแจ๊ค ไชยกิจไพบูลย์ศรี อายุ ๒๑ ปี

๕.นายภาคภูมิ หรือแบ๊ะ ประดับธนกิจ อายุ ๑๙ ปี


สถานที่วันเวลาจับกุม กก.สส.บก.น.๖ (เชิญตัวมาจากบ้านเลขที่ ๒๒๕/๒๗๘ หมู่บ้านสินทวี กรีนวิลล์ ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ) และทำการจับกุมตัวที่ กก.สส.บก.น.๖ สถานที่วันเวลาเกิดเหตุ ในเขต บก.น. ๕ พื้นที่ สน.วัดพระยาไกร, บก.น. ๖ พื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ สน.จักรวรรดิ สน.พลับพลาไชย ๑ และ สน.พระราชวัง , เขต บก.น.๗ ท้องที่ สน.บางกอกน้อย และ สน.บางกอกใหญ่ , เขต บก.น.๘ และเขตพื้นที่ บก.น. ๙ พร้อมด้วยของกลางคือ

รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น MSX ๑๒๕ สีแดง-ดำ คันทะเบียน ๓ กม ๑๓๒๙ กทม.

โดยกล่าวหาว่า 

“ปล้นทรัพย์” และ “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด ฯ”

พฤติการณ์กล่าวคือ จากการบูรณาการประสานงานกันระหว่าง กก.สส.บก.น.๖ และ ฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกใหญ่ กรณีในเขตฝั่งพระนคร และฝั่งธนบุรีพื้นที่ บก.น.๕,๖,๗,๘ และ ๙ ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ร่วมกันก่อเหตุ ปล้นทรัพย์ และวิ่งราวทรัพย์ สร้อยคอทองคำบ่อยครั้ง โดยมักจะเลือกก่อเหตุในย่านธุรกิจการค้า, สถานที่ท่องเที่ยวและทำบุญ เช่น เยาวราช, เอเชียทีค, ศาลเจ้าพ่อเสือ เป็นต้น และพบว่ามีแผนประทุษกรรม,ตำหนิรูปพรรณคนร้าย และยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุสอดคล้องกัน และมีเส้นทางหลบหนีการจับกุมไปทางฝั่งธนบุรี 

กก.สส.บก.น.๖ และ ฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกใหญ่ สืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้าย จนพบเบาะแสทราบว่าคนร้าย กลุ่ม “แก๊งพลอยแก้ว” มี นายกุลเดช หรือบัส เชาว์เฉียบ ซึ่งตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ สน.บางกอกน้อย ในคดี “ปล้นทรัพย์และร่วมกันวิ่งราวทรัพย์” จำนวน ๘ หมายจับ เป็นหัวหน้าแก๊ง 

จึงได้วางแผนสืบสวนติดตามตัวจนทราบว่า นายกุลเดช กับพวก ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่ บ้านเลขที่ ๒๒๕/๒๗๘ หมู่บ้านสินทวี ตำบลบ้านคลองสวน อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ นายกุลเดช กับพวกรวม ๕ คน อาศัยอยู่ในบ้าน สอบสวนขยายผลนายกุลเดชกับพวกรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มาแล้ว ไม่ต่ำกว่า ๕๐ ครั้ง จึงได้ประสาน สน.ต่างๆ ติดตามผู้เสียหายที่ได้ร้องทุกข์ไว้มาชี้ยืนยันตัวผู้ต้องหาจนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับนายกุลเดชและพวก พร้อมกับผู้ต้องหาที่หลบหนีเพิ่มเติมได้อีก ๔ คน รวมเป็น ๙ คน รวมจำนวนหมายจับทั้งสิ้น ๒๙ หมาย 

จากการก่อเหตุใน พื้นที่ บก.น.๕ ,บก.น.๖,บก.น.๗,บก.น.๘ และ บก.น. ๙ และผู้ต้องหาได้นำชี้สถานที่เกิดเหตุและร้านรับซื้อของโจรที่นำสร้อยคอทองคำที่ได้จากการก่อเหตุไปจำหน่าย และได้ดำเนินคดีร้านรับซื้อสร้อยคอทองคำจากผู้ต้องหาในข้อหา “ประกอบกิจการค้าของเก่าโดยไม่ได้รับอนุญาต” และได้ตรวจยึดสร้อยคอทองคำที่พบในร้านมาตรวจสอบเพื่อให้ผู้เสียหายมาชี้ยืนยันเพื่อดำเนินคดีในข้อหา “รับของโจร” ต่อไป ผู้ต้องหาทั้ง ๕ คน ให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำความผิดและหลบหนี อีกจำนวน ๓ คน ดังนี้

๑.นายสหรัฐ หรือบิ๊ก ทองอุดม อายุ ๑๘ ปี

๒.นายศราวุธ หรือเบล หรือมอเร่ ปานทอง อายุ ๒๖ ปี

๓.นายนรวิชญ์ หรือไปรท์ สุขเจริญ อายุ ๒๐ ปี


หมายเหตุ รถจักรยานยนต์ที่กลุ่มคนร้ายใช้ในการก่อเหตุเป็นประจำมีดังนี้

๑.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น มีโอ สี ดำ-ทอง หรือ แดง-ขาว
๒.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น มีโอ สี ดำ-เทา หรือ ดำ-ม่วง
๓.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น ฟิโน่ สี น้ำเงิน-ขาว หรือ แดง-ดำ
๔.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น MSX สี แดง-ดำ
๕.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น ฟิโน่ สี น้ำเงิน-ขาว หรือ แดง-ดำ
๖.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ ๑๑๐ สีขาว

เครื่องแต่งกาย และหมวกนิรภัยที่สวมใส่ก่อเหตุเป็นประจำ

๑.หมวกนิรภัยแบบครึ่งใบ สีขาว,สีแดง และสีเทา
๒.หมวกนิรภัยแบบเต็มใบ สีดำ
๓.เสื้อแจ็คเก็ต แขนยาว สีดำ, สีขาว และสีชมพูอ่อน

จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาทั้ง ๕ คน ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิดและหลบหนี ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร มาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๖ ต่อเนื่องมาจนกระทั่งถูกจับกุม จำนวนหลายครั้ง

หากผู้เสียหายท่านใด ที่ประสบเหตุถูกวิ่งราวทรัพย์ในลักษณะดังกล่าว สามารถติดต่อขอดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.บางกอกน้อย และ สน.สำราญราษฎร์ หรือติดต่อ กก.สส.บก.น.๖ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว